สมุทรสาคร รอง ผอ. ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 7 แถงผลการจับกุมยาเสพติด

เมื่อเวลา 10.44 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ที่ชั้นล่าง อาคารกองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัด สมุทรสาคร พล.ต.ต.สุรพงษ์​ ชัยจันทร์​ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 7) ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร (ปส.) ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม (สส.ปส.) พร้อมหัวหน้าสถานี และชุดจับกุม สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกันนำของกลาง ยาเสพติด ของกลางทรัพย์สิน ที่ยึดได้จากขบวนการผู้ค้ายาเสพติดซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด มาแถลงผลงานการจับกุม ต่อสื่อมวลชน

พล.ต.ต.สุรพงษ์​ ชัยจันทร์​ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (รองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 7) แถลงว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.ตามแผนบูรณาการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายาเสพติด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห.แผนปฏิบัติการ ป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2562 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. (ปป), พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป 6) และแผนขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เป็นรูปธรรมใน 3 เดือน ของตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 (ปส)โดยสรุป

ผลการปฏิบัติ ห้วงระหว่างวันที่ 22 พ.ย.- 6 ธ.ค. 61 ปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมตรวจยึด ของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม การปิดล้อมตรวจค้น 36 เป้าหมาย ผลการจับกุมรวมทุกข้อหา 144 ราย ผู้ต้องหา 146 คน ผลการจับกุม 5 ข้อหาสำคัญ 24 ราย ผู้ต้องหา 29 คน ของกลางทั้งหมด ยาบ้า 7,720 เม็ด กัญชา 8.56 กรัม ไอซ์ 78.46 กรัม พืชกระท่อม 3,516.37 กรัม เคตามีน 2.41 กรัม

ตรวจยึดรถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืน 16 กระบอก เครื่องกระสุน 17 นัด เงินสด 38,600 บาท ทองรูปพรรณมูลค่า 76,000 บาทโทรศัพท์ 6 เครื่อง พระเครื่อง 5 องค์ เครื่องประดับอื่นๆ เงินในบัญชี รวมมูลค่ายึดอายัดทรัพย์สิน 413,000 บาท

ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 1 ราย ผู้ต้องหา 2 คน สภ.สามพราน เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2561 เวลาประมาณ 19.30 น. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายจักรพันธ์หรือกล้า หมึงประเสริฐ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/3 ม.3 ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม น.ส.ทิฐินันท์ หรือป้อม คุณโย อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/4 ม.7 ต.ท่างิ้ว อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 6,060 เม็ด ไอซ์ เกร็ดสีขาว น้ำหนักไอซ์สุทธิ 20 กรัม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ตว -5416 กทม. 1 คัน เหตุเกิด ริมถนนบรมราชชนนี ม.6 ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม ต่อเนื่องบริเวณบ้านเลขที่ 11/3 ม.3 ต.ทรงคะนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม

ปฏิบัติปิดล้อมตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดพร้อมทรัพย์สิน ที่เชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดของ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ง่วงระหว่างเดียวกัน ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 47 เป้าหมายค้นการจับกุมทุกข้อกล่าวหาในฐานความผิด 208 รายผู้ต้องหา 221 คน จับกุม 5 ข้อหาสำคัญ 53 รายผู้ต้องหา 60 คนของกลางยาเสพติดทั้งหมด ยาบ้า 17,612 เม็ด กัญชาแห้ง 42.97 กรัม ยาไอซ์ 118 กิโล 518.23 กรัม พืชกระท่อม 5 กิโล 516.37 กรัม เคตามีน 4.01 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ 5 คันรถจักรยานยนต์ 6 คันอาวุธปืน 18 กระบอกกระสุนปืน 69 นัดเงินสด 39,860 บาท ทองรูปพรรณมูลค่า 76,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง พระเครื่อง 5 องค์ และของมีค่าอื่นๆรวมทรัพย์สินที่ยึดอายัดทั้งสิ้น 1,427,260 บาท

ผลการปฏิบัติของตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครและ ภจว.นครปฐมสามารถจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 5 ราย ผู้ต้องหา 8 คน ของกลางยาบ้า 12,160 เม็ด ไอซ์ 118 กิโล 201.5 กรัม โดยในส่วนยาไอซ์ 118 กิโลกรัมเศษจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมรถยนต์ 2 คันซึ่งอ้างว่ารับจ้างลำเลียงจากภาคเหนือเพื่อจะล่องสู่ภาคใต้ใช้วิธีซุกซ่อนมาในกล่องผลไม้สตอเบอรี่แล้วใช้ข้าวเปลือกใส่กระสอบเล็กปิดบังอำพรางสายตา ผลการจับกุมผู้เกี่ยวข้องยาเสพติดทุกรายจากการขยายผลผู้ต้องหาทุกรายให้การรับสารภาพพร้อมเปิดเผยข้อมูลขบวนการทั้งในทุนและผู้เกี่ยวข้องแก้ชุดจับกุมทั้งหมด

พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 (ปส) กล่าวในตอนท้ายของการแถลงผลการจับกุมว่าตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาครรวมทั้งตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมและตำรวจภูธรอื่นๆในสายบังคับบัญชาของตำรวจภูธรภาค 7 จะดำเนินการแบบบูรณาการอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดตรวจยึดทรัพย์สินตาม พรบ.มาตรการ เพื่อตัดวงจรการเงินกลุ่มนักค้ายาเสพติดให้สิ้นซากชนิดใครเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องจนกว่าขอทาน

จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนถ้ามีเบาะแสสามารถแจ้ง เบาะแสให้ทางตำรวจภูธรภาค 7 ทราบสายด่วนยาเสพติด 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์ 191 ตำรวจภูธรทุกจังหวัด ซึ่งเราจะปกปิดข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับโดยเด็ดขาด…

พิราบ 5  ภาพ / ข่าว