เมื่อเวลา 10.45 นาที วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2561 ที่ห้องประชุมสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอก พงศ์ศักดิ์ ชูนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกสีหเดช สระกอบแก้ว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี พร้อมชุดสืบสวนจับกุมของสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรีชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 รุดสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากนายเสกสันต์ หรือเขียด ภู่ระหงษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ถ.สระแก้ว ต.พระประโทณ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ผู้ต้องหาที่ก่อคดีลักทรัพย์ชิงทรัพย์ ในหลายท้องที่ของจังหวัดนครปฐม ที่ถูกจับกุมได้มาซักถามก่อนนำชี้ ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ
พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมเผยว่า ด้วยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561เวลาประมาณ 19.30 น. ได้มีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ นายกิตติ ช้างโก้ ผู้เสียหาย ได้แหวนเพชร กับ แหวนทองคำ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ขณะที่เหยื่อไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ ริมสะพานต่างระดับ ถนนเพชรเกษมตัดถนนบรมราชชนนี (ว.อุดร) ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนเกี่ยวข้องของ สภ.นครชัยศรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูล พยานหลักฐานจนทราบว่า คนร้าย ที่ลงมือก่อเหตุ คือนายเสกสันต์ หรือเขียด ภู่ระหงษ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ถ.สระแก้ว ต.พระประโทณ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยนายเขียดคนร้าย พักอาศัยอยู่ที่บ้านภรรยา ท้องที่ ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม จึงนำกำลังไปตรวจสอบ จากการเข้าตรวจสอบพบอาวุธปืน ที่นายเขียดคนร้าย ใช้ก่อเหตุ และจากการตรวจสอบอาวุธปืน ปรากฏเป็นอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสังกัดตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ที่มาช่วยราชการศูนย์ยาเสพติดภาค 7 ที่แจ้งหายไว้กับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2561โดยถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์ลักเอา ทรัพย์สินไปหลายรายการรวมทั้งอาวุธปืน และขณะเข้าตรวจสอบบ้านที่นายเขียดคนร้าย พักอาศัยอยู่ที่บ้านภรรยา ท้องที่ ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม ยังพบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ นายกิตติ ช้างโก้ สอบถามภรรยา นายเขียดคนร้ายบอกตำรวจว่า นายเสกสันต์ หรือเขียดฯได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ ซึ่งรถจักรยานยนต์ ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ เป็นของตน แต่อาวุธปืนเป็นของนายเสกสันต์ หรือเขียดฯ แต่ไม่ทราบที่มา
หลังพบหลักฐานและพยานบุคคลที่เป็นคนใกล้ชิดคนร้าย พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับที่ จ.320/2561 ลงวันที่ 3 กันยายน 2561 ในฐานความผิด “ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทาความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอบโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ต่อมาเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรีและเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมกันจับกุมนายเสกสันต์ หรือเขียด ภู่ระหงษ์ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้ที่บ้านญาติของนายเสกสันต์ หรือเขียดฯ ที่ อ.ดอนตูม นครปฐม พร้อมยึดของกลางเป็นเสื้อผ้าชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ กับ แหวนทองคำของผู้เสียหาย ส่วนแหวนเพชร นายเสกสันต์ หรือเขียด อ้างว่าหลังจี้ชิงทรัพย์ได้มาจากเหยื่อ ได้นำแหวนเพชรวงดังกล่าว ไปจำนำไว้ที่โรงรับจำนำ ย่านปิ่นเกล้า กรุงเทพมหานคร ส่วนตั๋วจำนำตนได้ทำลายทิ้งไปแล้ว ชุดจับกุมจึงประสานผู้เสียหายพร้อมให้ นายเสกสันต์ หรือเขียด นำผู้เสียหายไปดูแหวนของกลาง และไถ่คืนกลับมาได้ ที่ร้านรับจำนำดังกล่าว ใช้ประกอบเป็นหลักฐาน
และจากการขายผลการจับกุม นายเสกสันต์ หรือเขียดฯ รับสารภาพว่า ตนได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ นายกิตติ ช้างโก้ ผู้เสียหาย ที่สวนสาธารณะ ว.อุดร. ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เหตุเพราะตกงานไม่มีงานทำ มีภาระต้องดูแลครอบครัว และติดยาเสพติด และรับสารภาพด้วยว่า อาวุธปืนที่ใช้เป็นอาวุธก่อเหตุดังกล่าว ตนได้มาจากการก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ที่ริมถนนสาธารณะ ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม และนำอาวุธปืนดังกล่าวมาใช้ก่อเหตุ
ขณะเดียวกันที่ผ่านมา มีเหตุโจรกรรมกลุ่มแก๊งค์ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ งัดตู้เติมเงินสด และตู้เติมเงินออนไลน์ ตู้หยอดเหรียญซักผ้า ตู้หยอดเหรียญขายสินค้าต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่ตามร้านค้า ปั๊มน้ำมัน ที่สาธารณะบ้านพักต่าง ๆ ซึ่งมีการก่อเหตุบ่อยครั้ง แต่ยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ เมื่อนำภาพวงจรปิดั้เผยแพร่ทางสื่อ และอื่นๆมาตรวจสอบโดยให้นายเสกสันต์ หรือเขียด ภู่ระหงษ์ ดูร่วมด้วย นายเสกสันต์ หรือเขียด จึงยอมรับอีกว่า ตนเป็นผู้ก่อเหตุในคดีต่างๆอีกราวม20คดีคือ
(ท้องที่ สภ.นครชัยศรี)
1. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ร้านขายของทางขวาก่อนข้ามทางรถไฟศรีษะทอง ไม่ได้เงินไป
2. เหตุงัดตู้เติมเงินออนไลน์เอเจ โรงงานมัสเทคได้เงินไปประมาณ 500 บาท
3. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์เงินร้านป้าไร หน้าวัดศรีมหาโพธิ์ ได้เงินไปประมาณ 70 บาท
4. เหตุงัดตู้น้ามันร้านป้าไร หน้าวัดศรีมหาโพธิ์ ไม่ได้เงินไป
5. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์แถวหน้าวัดสัมปทวน ได้เงินไปประมาณ 100 บาท
6. เหตุงัดตู้ถุงยางอนามัย ปตท.ห้วยพลู ได้เงินไปประมาณ 100 บาท พร้อมถุงยางอนามัยจานวนหนึ่ง
7. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์เอเจ ร้านขายของ ตาบลดอนแฝก ได้เงินไปประมาณ 1,000 บาท
8. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ร้านยายนอม ได้เงินไปประมาณ 800 บาท
9. เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์หน้าวัดใหม่ (ร้านญาติดาบหม้อ) ไม่ได้เงินไป
(ท้องที่ สภ.เมืองนครปฐม)
1.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ หน้าเซเว่นวัดไผ่ล้อม ได้เงินไปประมาณ 50 บาท
2.เหตุงัดตู้ซักผ้าร้านพอใจ 734 ถนนทหารบก ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม
ได้เงินไปประมาณ 2,000 บาท (ออกข่าวประเด็นเด็ด 7 สี เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561)
3.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ หน้าบ้านผู้ใหญ่มุ่ย ได้เงินไปประมาณ 400 บาท
4.เหตุงัดตู้ห้องน้าหยอดเหรียญ ตลาดปฐมมงคล ได้เงินไปประมาณ 1,000 บาท
5.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ ร้นค้าซอยตรงข้ามบิ๊กซี ได้เงินไปประมาณ 400 บาท
(ท้องที่ สภ.ดอนตูม)
1.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์สามแยกเจริญทอง ได้เงินไปประมาณ 3,000 บาท
2.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์หน้าห้องแถวจากแยกบางปลาทางไปดอนตูม ได้เงินไปประมาณ 700 บาท
3.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ร้านค้าก่อนถึงหน้าวัดดอนพุทรา ได้เงินไปประมาณ 400 บาท
(ท้องที่ สภ.พุทธมณฑล)
1.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ออนไลน์บุญเติม ร้านค้าอยู่ทางซ้ายก่อนถึง สภ.พุทธมณฑล ได้เงินไปประมาณ 500 บาท
2.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ร้านค้าสี่แยกวัดมะเกลือ ได้เงินไปประมาณ 20 บาท
(ท้องที่ สภ.สามควายเผือก)
1.เหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์ร้านค้าในซอยวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ได้เงินไปประมาณ 1,000 บาท และ จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า นายเสกสันต์ หรือเขียด ภู่ระหงษ์ มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยถูกจับกุมในคดี ครอบครองยาเสพติด ที่ สภ.นครชัยศรี เมื่อ ปี พ.ศ.2555
พิราบ5 ภาพ/ข่าว
