วันที่ 22 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมวิชัยนิดาธรรมาเจริญราช วัดเกาะหลัก พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระเมธีคุณาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองฯ เจ้าอาวาสวัดเกาะหลัก พระอารมหลวง เป็นประธานพิธีมอบเกียรติบัตร คนหัวใจหิน คนหัวใจเหล็ก คนหัวใจเพชร และมอบรางวัลประกวดการจัดทำและนำเสนอแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า โดยมี นายศรีวิชัย ทรงสุวรรณ ประธานชมรมคนหัวใจเพชรแห่งประเทศไทย ประธานกล่าวเปิดงานออกพรรษาลาเหล้า “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง มีสติพร้อมสู้ทุกวิกฤต”(ฉลองชัยคนหัวใจหิน ชื่นชมคนหัวใจเหล็ก เชิดชูคนหัวใจเพชร) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 2565 มี น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวรายงาน และมี น.ส.อุบลวรรณ คงสว่าง ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) เครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัด ผู้นำชุมชน ตัวแทนชุมชนคนสู้เหล้า 32 ชุมชน ในทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดประจวบฯ เข้าร่วม
โดยการประกวดการจัดทำและนำเสนอแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า มีชุมชนคนสู้เหล้า 32 ชุมชน ส่งผลงานเข้าประกวด โดยมีคณะกรรมการตัดสิน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย นายเดชา เรืองอ่อน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.) นายปิยชาติ ไฮ้คง พนักงานคุมประพฤติชำนาญการ สนง.คุมประพฤติจังหวัด น.ส.สุประวีณ์ ชัยบาล ปลัดอำเภอเมืองฯ ผู้แทนวัฒนธรรมจังหวัด ผู้แทนสรรพสามิตพื้นที่ประจวบฯ ผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ตำรวจภูธร สภ.เมืองฯ
น.ส.ธนพร บางบัวงาม ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดต้นทุนทางสังคมและภาคีเครือข่ายที่เข้มแข็ง มีศักยภาพที่สามารถดำเนินงานการขับเคลื่อนเชื่อมร้อยเครือข่าย เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและค่านิยมสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ของแต่ละชุมชนพื้นที่ในจังหวัด ประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนบูรณการทำงาน ร่วมกับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ระดับชุมชน ตำบล อำเภอ จังหวัด ดำเนินการตามยุทธศาสตร์คือ 1) การจัดการปัญหาแอลกอฮอล์ และลดปัจจัยเสี่ยงในพื้นที่ 2) การพัฒนากลไกการจัดการปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดปัจจัยเสี่ยง 3) การปรับเปลี่ยนค่านิยมในงานเทศกาล/งานบุญประเพณี/วันสำคัญทางศาสนา
4) การลดอันตรายจากการดื่ม และควบคุมเข้าถึงด้านเศรษฐศาสตร์และกายภาพด้านแอลกอฮอล์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพเด็กเยาวชน โดยการนำของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ติดต่อกันมา 4 สมัย จนถึงปัจจุบัน มีนายอำเภอนักรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งได้รับความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดคนหัวใจหิน หัวใจเหล็ก หัวใจเพชร และชุมชนคนสู้เหล้างดเหล้าเข้าพรรษา ชุมชนแหล่งเรียนรู้คนสู้เหล้าต้นแบบ เกิดกติกาชุมชนที่สามารถจัดสรรงบประมาณจากกองทุนสุขภาพตำบลได้ด้วยตัวเอง เกิดเครือข่ายเยาวชนคนรุ่นใหม่ อีกทั้งในปี 2559 เกิดความร่วมมือ (MOU) เครือข่ายโรงเรียน 14 โรงเรียน และในปี 2563 เกิดความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยงาน 13 หน่วยงาน
จากข้อมูลสถิติติพบว่ามีผู้เข้าร่วมโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา จำนวนกว่า 32 ชุมชน ครอบคลุมทั้ง 8 อำเภอ ช่วงเวลาปี 2560 ถึง 2565 มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 8,725 คน เมื่อตรวจสอบตัวตน แยกประเภทตามเกณฑ์ มีการติดตามอย่างต่อเนื่อง และได้รับเกียรติบัตรแล้วมีจำนวนทั้งสิ้นดังนี้ งดเหล้าเข้าพรรษา คนหัวใจหิน จำนวน 1,280 คน คนงดเหล้า 1-3 ปี คนหัวใจเหล็ก จำนวน 548 คน คนงดเหล้า 3 ปีขั้นไป คนหัวใจเพชร จำนวน 613 คน รวมทั้งสิ้น 2,441 คน และมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จำนวน 191 ร้านค้า เกิดชุมชนต้นแบบ ชุมชนแหล่งเรียนรู้ 10 ชุมชน เครือข่ายเยาวชนนักรณรงค์ สื่อสร้างสรรค์ ทั้งหมด 7 รุ่น
อีกทั้งมีการขับเคลื่อนงานบุญประเพณี และงานเทศกาลปลอดเหล้า มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2553 ถึงปัจจุบัน เช่น งานกาชาดสร้างสุข งานสงกรานต์ปลอดเหล้าพื้นที่สร้างสรรค์ปลอดภัย งานบุญประเพณีไทยทรงดำ รณรงค์วันลอยกระทง สวดมนต์ข้ามปี งานแข่งเรือปลอดเหล้า งานบวชปลอดเหล้า งานแต่งปลอดเหล้า และเทศกาลอาหารปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์ เป็นต้น วันนี้จึงเป็นการฉลองชัยในการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ประกวดการจัดทำแผนที่เดินดินชุมชนคนสู้เหล้า และเวทีเสวนาออกพรรษาลาเหล้า ขอบคุณพี่น้องเครือข่ายทุกท่าน ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานบุญประเพณีที่ดีงามกันมาต่อเนื่องกว่า 10 ปี
ด้าน นายวีระวุฒิ กลมเกลี้ยง กำนันตำบลปากแพรก อ.บางสะพานน้อย ผู้นำชุมชนคนสู้เหล้าบ้านทุ่งสะท้อน ซึ่งเป็นชุมชนต้นแบบ และเป็นชุมชนตัวอย่าง ในการออมเงินที่ได้มาจากการงดเหล้า เลิกเหล้า บุหรี่ จนมีเงินเก็บมาใช้จ่ายในครอบครัว ที่ได้จัดทำโครงการ “เงินออม 0 บาท เหล้า บุหรี่” กล่าวว่า ตนอยากปลูกจิตสำนึกให้ทุกคน เห็นคุณค่าของเงินที่สูญเสียไปกับค่าเหล้า และบุหรี่ เกิดเป็นต้นแบบที่ดีแก่ลูกหลาน เยาวชน และคนในชุมชน นำไปสู่การลด ละ เลิก เหล้า บุหรี่ของคนทุ่งสะท้อน และไม่พบนักดื่ม–นักสูบรุ่นใหม่ๆ ของคนทุ่งสะท้อนต่อไป
ซึ่งประโยชน์ของโครงการ 1.มีเงินเก็บหรือใช้ให้เกิดประโยชน์ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ 2.เพื่อให้ตับ และร่างกายได้ฟื้นฟูกำจัดสารพิษในร่างกาย 3. ลดโอกาสในการทะเลาะวิวาท ลดความเสี่ยงติดโรคโควิด – 19 4. ช่วยเชื่อความสัมพันธ์ของครอบครัว 5. เป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเยาวชนคนทั่วไป 6. เกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง ครอบครัว และชุมชน
ทั้งนี้ ตนเอง พร้อมด้วยคณะกรรมการโครงการเงินออม 0 บาท เหล้า บุหรี่ ได้จัดทำเล่มเงินออม พร้อมให้ทางผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้เขียนเป้าหมายของการออมเงินในครั้งนี้ว่าตนจะนำเงินส่วนนี้ไปทำอะไร เพื่อเป็นที่สร้างแรงจูงใจในการออมเงินในครั้งนี้ด้วย สำหรับ โครงการดังกล่าว เริ่มก่อตั้งมาเมื่อเดือน พ.ย. 2564 – ม.ค.2565 มีจำนวนผู้ที่เข้าร่วม 35 ราย จำนวนเงินสะสม 13,280 บาท และหารือกับคณะกรรมการโครงการดังกล่าวตนมีความคาดหวังว่า จะชักชวนประชาชนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มาเข้าร่วมโครงการให้ได้มากที่สุด และในปี 2565 ยอดผู้เข้าร่วมเพิ่มเป็น 55 ราย และมียอดเงินออม 54,000 บาท////////////////