Site icon ออนไลน์นิวส์ ข่าวออนไลน์

รมว.สาธารณสุข มอบนโยบายและ เปิดป้ายอาคารวินิจฉัยโรค ผ่าตัด และผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาล สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่๑๗ ที่ สุพรรณบุรี

วันนี้(6 มี.ค.67) เวลา 14.00 น.ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่๑๗ อ.สองพี่น้อง จ. สุพรรณบุรี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดป้ายอาคารอาคารวินิจฉัยโรค ผ่าตัด และผู้ป่วยหนัก พร้อมมอบนโนบายการทำงานแก่ คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ เขตสุขภาพที่ ๕ ชมรมผู้สูงอายุอำเภอสองพี่น้อง และทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านว่า

กระทรวงสาธารณสุข มีภารกิจในการดูแลสุขภาพของประชาชนทุกช่วงวัย โดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ให้ความเสมอภาคแก่ทุกชนชั้นมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าถึง และได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐานเป็นสำคัญ ซึ่งอาคาร “วินิจฉัยโรค ผ่าตัด และผู้ป่วยหนัก” โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๗ แห่งนี้ คือ ภาพสะท้อนภารกิจนี้ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การลดความแออัด การเพิ่มคุณภาพ การให้บริการการพัฒนาศักยภาพของการให้บริการ การลดระยะเวลาการรอคอยโดยเฉพาะการบริการผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ซึ่งนับวันจะพบปัญหาที่ซับซ้อนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นนับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี สำหรับกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งพี่น้องประชาชนชาวอำเภอสองพี่น้อง และชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการสร้างอาคาร เงินบริจาคสำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ และเครื่องมือแพทย์ที่มีราคาสูงและมีความจำเป็นถือเป็นการเติมเต็มพันธกิจของเรา ในการเยียวยารักษาชีวิตของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดียิ่งอย่างไรก็ตาม การรักษาเป็นเรื่องปลายเหตุ สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บคือสิ่งที่ดีที่สุด

โดย นายแพทย์โอภาส  การย์กวินพงศ์ปลัดกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า การก่อสร้าง อาคารวินิจฉัยโรค ผ่าตัดและผู้ป่วยหนัก เป็นอาคาร คสล. ๕ ชั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับดำเนินกิจกรรมทางด้านการตรวจวินิจฉัยโรค ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยหนัก และผู้ป่วยผ่าตัด และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ารับการบริการได้อย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น โดยมุ่งเน้นพัฒนาให้บริการแบบดิจิตัล ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เช่น ให้บริการด้วยโปรแกรม Hosxp (ฮอสเอกซ์พี) แบบ paperless , ลดการใช้กระดาษ /มีระบบคิวอัจฉริยะ , ใช้ตู้ kiosk (คี-ออส) ในการตรวจสอบสิทธิ์และจัดคิว โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว,จอประชาสัมพันธ์อัจฉริยะ และในอนาคตอันใกล้ จะมุ่งพัฒนาเป็นดิจิตอลเต็มรูปแบบ และให้บริการ ปชช ด้วยบัตร ปชช ใบเดียว ครบวงจร สามารถให้บริการแก่ผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้มีผู้รับบริการถึงวันละ 1,000 คน/ วัน และสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 1,500 คน/วัน เนื่องจากผู้ป่วยมารับบริการช่วงเช้าเป็นหลัก

ขณะที่ นายณัฐภัทร  สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในการพัฒนาในทุกมิติ ด้วยการเป็น 5 เมืองสำคัญ คือ เมืองอาหาร  เมืองท่องเที่ยว  เมืองสมุนไพร  เมืองดนตรี และเมืองกีฬา โดยความร่วมมือของจังหวัด และการมีส่วนร่มของประชาชน

สำหรับ ที่มาของการเปิดอาคารวินิจฉัยโรค ผ่าตัด และผู้ป่วยหนัก โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 17   เนื่องจากมีผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีเหตุมาจาก ต้องการให้บริการแบบรวมศูนย์ เนื่องจาก จุดให้บริการมีการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ถึง 5 อาคาร  8 แผนก ทำให้คนไข้ต้องเดินไกลและใช้ทรัพยากรบุคคลสูง รวมถึงขยายห้องผ่าตัด และห้อง ICU ที่ใช้มานานร่วม 30 ปี  โดย ชั้น 4  เป็นห้องผ่าตัด และชั้น 5 เป็นห้องผู้ป่วยหนัก 3 แผนกคือ ICU ศัลยกรรม , ICU อายุรกรรม , NICU หน่วยบริบาลทารกแรกเกิด   ขณะที่ห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นเป็น 7 ห้อง จากเดิมเพียง 4 ห้อง สามารถให้บริการผ่าตัดได้ถึงปีละ 4000 ราย แต่เนื่องจากปัจจุบันมีการผ่าตัดที่ซับซ้อน ซึ่งใช้เวลาผ่าตัดต่อรายมากขึ้น จึงเป็นการเพิ่มศักยภาพ คุณภาพในการผ่าตัด แต่ไม่อาจเพิ่มจำนวนผู้รับบริการได้มากขึ้นอย่างที่ควร

ทั้งนี้ เนื่องจากอาคารดังกล่าว เป็นอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งมีปัญหาของแสงที่เข้าถึงจากด้านข้างตึก ไม่ตอบสนองต่อเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน แต่ทางโรงพยาบาลกำลังดำเนินการทำ TOR โซล่าเซลที่สระน้ำหลัง รพ.ขนาด 400 KV ในงบปี 67  ของดาดฟ้าตึก และกำลังดำเนินโครงการดาดฟ้าอาคารใหม่ 400 KV ในงบปี 68

Exit mobile version