ตรัง ป.ป.ช.ภาค9 ปลูกฝังแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม

สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 จัดอบรมการสร้างวิทยากรตัวคูณในการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม  ซึ่งเป็นไปตามคณะรัฐมนตรี ที่ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการต่อต้านด้านการทุจริตและการประพฤติมิชอบ

โรงแรมเรือรัษฎา  ตำบลทับเที่ยง  อำเภอเมืองตรัง  จังหวัดตรัง  นายศรชัย  ชูวิเชียร  ผู้ช่วยเลขธิการคณะกรรมการ  ป.ป.ช.ภาค 9 เป็นประธานในพีเปิดอบรมการสร้างวิทยากรตัวคูณในการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม (สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9) สืบเนืองจากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายไว้คือ 1.ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต 2.คดีทุจริตและประพฤติมิชอบลดลง 3.การดำเนินคดีทุจริตมีความรวดเร็ว เป็นธรรม โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ โดยเป้าหมายที่ 1 ประชาชนมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมซื่อสัตย์สุจริต มีหนึ่งตัวชี้วัดคือ เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 50 ส่งผลให้ในปี 2561 สำนักงาน ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ด้านการป้องกันการทุจริต เพื่อดำเนินการสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา ประกอบด้วย 5 หลักสูตร คือ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รายวิชาเพิ่มเติมการป้องกันการทุจริต) 2.หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด youngster with good heart) 3.หลักสูตรตามแนวทางรับราชการ กลุ่มทหารและตำรวจ 4.หลักสูตรสร้างวิทยากรผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต และ 5.หลักสูตรโค้ชเพื่อการรู้คิดต้านทุจริต โดยหลักสูตรทั้งหมด คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาดำเนินการเป็นรายวิชาเพิ่มเติมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยประสานงานกับสำนักงาน ป.ป.ช.อย่างใกล้ชิด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามกำหนดพร้อมรายงานผลสัมฤทธิ์ให้คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษาทราบเป็นระยะ

ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตและการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม และเพื่อสร้างวิทยากรตัวคูณเป็นแกนนำการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริต โดยขยายผลการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมในการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือเกี่ยวกับการสร้างสังคมที่ไม่ทนต่อการทุจริตและการปลูกฝังวิธีคิดแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยจัดการอบรมระหว่างวันที่ 4-5 มีนาคม 2564 มีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 173 คน