ตรัง รมว.ยุติธรรมแจงปลดล็อคพืชกระท่อม

รมว.ยุติธรรมมอบนโยบายปลดล็อคพืชกระท่อมในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง พร้อมพบปะผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่ขอออนุญาติปลูกต้นพืชกระท่อมในตำบลนาพละ อ.เมืองตรัง เน้นย้ำการนำพืชกระท่อมมาทำ 4 คูณ 100ยังผิดกฎหมายเหมือนเดิม

ที่โรงแรมธรรมรินทร์ธนา อ.เมือง จ.ตรัง นายสมศักดิ์เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานเปิดการประชุมพร้อมมอบนโยบายปลดล็อคพืชกระท่อมโดยมีนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส พ.ต.ท. ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส นายขจรศักดิ์  เจริญโสภ  าผู้ว่าราชการจังหวัดตรังผู้แทนตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง  พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมทั้งผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จากพื้นที่นำร่อง 135 หมู่บ้าน/ชุมชน นักวิชาการและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมประชุมกว่า 600 คน

จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะ ได้เดินทางไปยังหมู่ที่ 3 ต.นาพละ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อสร้างการรับรู้การปลดล็อกพืชกระท่อมให้กับผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ที่ขอนำร่องปลูกต้นพืชกระท่อมอย่างถูกกฎหมายในจ.ตรังโดยได้เยี่ยมชมต้นกระท่อมอายุกว่า 10 ปีและดูใบกระท่อมของชาวบ้าน โดย รมว.ยุติธรรมกล่าวกับชาวบ้านว่า  การเดินทางมารับฟังความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับกฎหมายพืชกระท่อมนั้น ก็เพื่อนำข้อเสนอและความเห็นต่างๆ ในการร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม ซึ่งเป็นกฎหมายรองของ ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ หรือกฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว และกำลังเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา โดยหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนเคยมีคดีและมีการจับกุมเกี่ยวกับเรื่องพืชกระท่อมเพราะมีการปลูกกันอยู่หลายร้อยต้น ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านนำร่อง 135 แห่ง โดยจัดตั้งคณะกรรมการพืชกระท่อมตำบลและหมู่บ้าน เพื่อรายงานผลการนำร่องในพื้นที่ ทั้งการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนผู้เสพและผู้ครอบครองพืชกระท่อมผ่านระบบสารสนเทศ การจัดทำธรรมนูญชุมชนและแผนปฏิบัติการควบคุมพืชกระท่อม จัดทำประชาคม เป็นต้น

ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ควบคุมให้แต่ละบ้านยังคงพืชกระท่อมที่เคยปลูกไว้ได้ครัวเรือนละ 3 ต้น ซึ่งหากกฎหมายพืชกระท่อมประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ตรงนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มเติมได้ เพราะพืชกระท่อมสามารถนำมาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทำเป็นยาได้ แต่จะต้องมีการควบคุมการปลูก เพราะหากปลูกมากจนเกินไป ราคาจะตกมากจนราคาถูก ซึ่งตรงนี้จะต้องศึกษารายละเอียดและทำความเข้าใจเรื่องกลไกการตลาดให้ชาวบ้านเข้าใจด้วย ยืนยันปลดล็อกแน่นอน เพราะได้เตรียมการไว้ 3 ชั้นที่จะปลดให้ได้ คือ 1.หมู่บ้านนำร่อง 2.พรบ.ยาเสพติดให้โทษ ปี 22 และประมวลกฎหมายยาเสพติด ๆ ซึ่งจะเริ่มกลางสัปดาห์หน้า แต่เน้นย้ำการนำพืชกระท่อมมาทำ 4 คูณ 100 ยังผิดกฎหมายเหมือนเดิม