ที่ปรึกษา ทส.และที่ปรึกษา อบจ.เดินหน้าพัฒนาสุพรรณบุรี สานต่อเจตนารมณ์บิ๊กเติ้ง

นายอุดม โปร่งฟ่า ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และที่ปรึกษา นายก อบจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าที่เข้าทำหน้าที่ที่ปรึกษา นายก อบจ.สุพรรณบุรี เพราะว่าเป็นความใฝ่ฝันของเราที่จะเข้ามาสานต่อโครงการต่างๆของ ฯพณฯบรรหาร ศิลปะอาชา ซึ่งท่านได้พัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ไว้เป็นอย่างดี หลังจากท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้ามาในสุพรรณบุรี ในทางที่ลบมากกว่าทางบวก สถานที่ต่างๆจะเห็นได้ว่ามีสภาพเสื่อมโทรม จนทางโซเชี่ยลต่างๆนำเอาไปลงวิจารณ์ว่าจังหวัดสุพรรณบุรี ตายไปพร้อมกับนายบรรหาร  ตนเองในฐานะที่เป็นลูกหม้อของพรรคชาติไทยในอดีตที่เคยได้รับความไว้วางใจจากนายบรรหาร ให้ลง สส.ใน จ.ยโสธร ซึ่งก่อนหน้านั้นย้ายไปทำงานที่นั้น จึงลงเป็นตัวแทนของพรรคชาติไทย ทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับนายบรรหารมาโดยตลอด จึงรับรู้นโยบายต่างๆ เช่น ปฏิรูปชนบท ลดปัญหาแผ่นดิน และจากการที่เราอยู่กับพื้นที่อยู่กับชาวบ้านมานาน ทำให้เข้าใจการปฏิรูปชนบทลดปัญหาแผ่นดินได้เป็นอย่างดี

เช่นเรื่องการศึกษา ให้ลุกหลานชาวไทยรวมทั้งชาวสุพรรณบุรี จะเห็นได้ว่านอกจากมีโรงเรียนประจังหวัดแล้ว ยังมีโรงเรียนที่บรรหารได้สร้าง เช่นโรงเรียนบรรหาร-แจ่มใส ซึ่งมีอยู่หลายแห่งในสุพรรณบุรี และยังสร้างถนนหนทางสู่ชนบท จนสุพรรณบุรีได้รับฉายาว่ามีเพียงคันนาเท่านั้นที่ไม่ได้เป็นถนนลาดยางและยังสร้างเมืองสุพรรณบุรี ให้เป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งปราศจากอุตสาหกรรมหนัก เป็นเกษตรกรรมที่ย่อย  ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้นๆของโลก และคนจังหวัดสุพรรณบุรี ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เฉลี่ยอายุที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งพวกนี้เป็นผลพวงจากการที่นายบรรหาร ได้วางแผนรากฐานชีวิตให้กับชาวสุพรรณบุรีไว้

ดังนั้นเราในฐานะที่เป็นลูกหลานของนายบรรหาร ถ้าเปรียบก็เหมือนนายบรรหารเป็นพ่อคุณหญิงแจ่มใส เป็นแม่ ของพวกเราชาวสุพรรณบุรี ไปไหนก็จะเจอคำว่าบรรหาร แจ่มใส สุพรรณบุรีเจริญได้ก็เพราะบรรหาร แจ่มใส

ดังนั้นเมื่อตนได้รับความไว้วางใจจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีความคิดมองกาลไกลไม่แพ้นายบรรหาร แต่นายวราวุธ ยังขาดแขนขาที่จะมาช่วยขับเคลื่อนตามนโยบายของนายบรรหาร เมื่อตนได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่นี่ ถือว่าเป็นภาระที่หนักหนาสากัน แต่ก็ต้องเรียนรู้ เพื่อจังหวัดสุพรรณบุรี จะพยายามทำให้ดีที่สุด และไม่หนักใจอะไร เชื่อว่าความเป็นสุพรรณบุรีกับความเป็นชาติไทยพัฒนา  ทุกคนจะอยู่ในกรอบในกติกาตามที่ผู้ใหญ่ได้วางรากฐานเอาไว้ สุพรรณบุรีจะต้องเดินหน้าไปด้วยดี