วันนี้(24 พ.ค.68) เวลา 09.00 น. โรงแรม Vasidtee Hotel นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเตรือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวขณะเป็นประธานเปิดงาน เวทีขับเคลื่อนงานชาติพันธุ์สร้างสุข “งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม” ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2568 ว่า
เวทีนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของภาคส่วนต่างฯ ที่ลุกขึ้นมามีส่วนร่วมในการออกแบบค่านิยมทางสังคมใหม่ ในการนำพาสังคมงดเหล้าลดปัจจัยเสี่ยง เสริมสุขภาวะ บนต้นทุนที่มีรากฐานของความหลากหลายทางวัฒนธรรมการที่พี่น้องชาติพันธุ์กว่า 30 กลุ่ม ที่จากทั่วประเทศ ได้มารวมตัวกันที่สุพรรณบุรีในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่เป็นการแสดงพลังของกลุ่มชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศความพร้อมและการเห็นถึงความสำคัญของการขับเคลื่อนงานชาติพันธุ์สร้างสุข “งดเหล้า ลดปัจจัยเสี่ยง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม” อย่างเป็นรูปธรรม เราต่างทราบดีว่า ในปัจจุบันปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุข (ทั้งเหล้า บุหรีไฟฟ้า กัญชา ยาบ้า ยาเสพติด การพนัน) ได้ซึมลึกไปในวิถีชีวิตของผู้คนและชุมชนในหลายพื้นที่ ทั้ง Online และ Offline โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางที่ต้องได้รับการดูแล อย่างเด็กเยาวชนลูกหลานของเรา ผู้พิการ ผู้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยังเข้าไปถึงสิทธิและสวัสดิการทางสังคมต่างฯ
ด้านนาย วิษณุ ศรีทะวงศ์ ประธานมูลนิธิเครือพลังสังคม กล่าวเพิ่มว่า การรวมตัวกันของเครือข่ายครั้งนี้ จึงเป็นเหมือน“หมุดหมาย” ที่แสดงให้เห็นว่า พลังทางวัฒนธรรมของแต่ละชาติพันธุ์ แต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นต้นทุนทางสังคมที่สำคัญ สามารถนำมาใช้เป็นพลังร่วมในการปกป้องสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีแก่เด็กเยาวชนและสร้างสุขภาวะทางสังคมได้ โดยมีตัวอย่างบทเรียนและประสบการณ์ในการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ที่หลากหลาย เฉพาะในพื้นที่สุพรรณบุรีเองก็มี 11 ชาติพันธุ์ อาทิ ไทยทรงดำ ลาวเวียง ไทยพื้นถิ่น กระเหรี่ยง ลาวครั่ง เป็นต้น เรามีงานบุญประเพณี งานบวชงานศพ และงานกาชาดงานประจำปีงานแข่งเรืองานบุญบั้งไฟ ที่จัดโดยให้ความสำคัญกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กเยาวชน ที่ควรค่าต้องการมาเรียนรู้มาศึกษา เพื่อร่วมกันขยายผล
ทั้งนี้ หวังว่าทุกท่านจะได้แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และกลับไปพร้อมกับพลังใจที่จะขับเคลื่อนภารกิจนี้ในพื้นที่ของตนอย่างต่อเนื่อง และเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออย่างยั่งยืนต่อไป
