บิ้กดริ้งรุดภาค 7 แถลงจับพี่เมียขาโหด ฆ่าทิ้งน้องเขยขี้ยาอ้างไม่ลงมือก่อนตัวเองก็ต้องเป็นเหยื่อ

เมื่อเวลา 13.33 น. วันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2561 ที่ชั้นล่าง อาคารกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ถนนเหนือวัง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐ พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี (บิ๊กดริ้ง) ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.เอกรินทร์ อิทธิวัฒนะ ผกก.สส.บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.สุรวุฒิ เจริญจิตร ผกก.สภ.กรับใหญ่ พร้อมชุดสืบสวนจับกุม ร่วมกันแถลงผลจับกุม ผู้ต้องหาคดีฆ่านายสุจน์ เกษรบัว อายุ 29 ปี ชาวบ้านหนองเสือ หมู่ 6 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เหตุเกิดท้องที่สอบสวน สภ.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังจับกุม นายกิตติพัฒน์ หรืออ้อย ไพริน อายุ 27 ปี ที่อยู่ 40 หมู่ 13 ต.หนองม่วง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว (ทำหน้าที่มัดมือมุดเท้าผู้ตาย และขับรถยนต์ตู้จากบ้านพักผู้ตายไปยิง ทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุ) นายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 20/1 หมู่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี(พี่เมียผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ใช้อาวุธปืนจี้บังคับให้นายอ้อย มัดมือมัดเท้าก่อนเอานายสุพจน์น้องเขยไปยิงทิ้ง)

พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงว่า จากรายงานอุกฉกรรจ์ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 17.00 น. พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกรับใหญ่ ได้รับแจ้งพบศพชาย ถูกฆาตกรรมด้วยการมัดมือเท้าและยิงด้วยอาวุธปืนทิ้งศพไว้ บริเวณถนนลูกรังทางเข้าบ่อทรายร้าง หมู่ 11 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทราบชื่อผู้ตายต่อมาคือ นายสุพจน์ เกษรบัว อายุ 29 ปี ชาวบ้านหนองเสือ หมู่ 6 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ด้วยเหตุดังกล่าวเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงสั่งกำชับผ่านมาตามระดับชั้นถึง พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 จากนั้นมีการสั่งการลงไปตามลำดับชั้นถึง พล.ต.ต.สงวน โรงสะอาด ผบก.สส.ภ.7, พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.เอกรินทร์ อิทธิวัฒนะ ผกก.สส.บก.สส.ภ.7, พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี, พ.ต.อ.สุรวุฒิ เจริญจิตร ผกก.สภ.กรับใหญ่ ให้เร่งรัดสืบสวนติดตาม จับกุมคนร้าย มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาจากการสนธิกำลังการสืบสวน ของตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี และตำรวจสืบสวนของท้องที่สถานีตำรวจภูธรกรับใหญ่ สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน จนเป็นที่แน่ชัดว่าผู้ร่วมก่อเหตุ ฆ่านายสุพจน์คือ นายกิตติพัฒน์ หรืออ้อย ไพริน อายุ 27 ปี กับนายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ อายุ 30 ปี จึงให้พนักงานสอบสวน ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ออกหมายจับคนทั้งสอง ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และทำการจับกุมบุคคลทั้งสองได้พร้อมของกลางครบทุกชิ้น

จากการขยายผล และข้อมูลพยานบุคคล พยานแวดล้อมที่พบเห็นรถยนต์ตู้คันที่ใช้ก่อเหตุ ขับขี่ออกจากที่เกิดเหตุอย่างมีพิรุธ ขณะเดียวกัน การตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง ก็พบรถยนต์ตู้ที่ผู้ก่อเหตุใช้ขับขี่มาอุ้มตัวผู้ตาย จากบ้านพักไปยิง แล้วทิ้งศพในที่เกิดเหตุ จนมีผู้มาพบ

ขณะที่ทีมสืบสวน ได้ตรวจสอบข้อมูลรถยนต์ตู้คันดังกล่าว จนทราบชื่อผู้ครอบครอง เป็นบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งซึ่ง เป็นนายจ้างของนายกิตติพัฒน์ หรืออ้อย ไพริน อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาที่ขับขี่รถยนต์ตู้ส่งพนักงานตามบริษัทที่ได้ว่าจ้าง จึงทำให้ทราบตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ คือนายกิตติพัฒน์ หรืออ้อย ไพริน จึงเชิญตัวมาสอบถาม นายกิตติพัฒน์ หรืออ้อย รับว่าเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุจริงโดยทำหน้าที่ขับรถยนต์ตู้ โดยมีผู้ก่อเหตุอีกคนหนึ่งคือนายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ เป็นคนใช้ปืนจี้หัวผู้ตาย ให้ตนมัดมือมัดเท้า ก่อนพาขึ้นรถตู้เอาไปยิงทิ้ง

หลังนายกิตติพัฒน์ หรืออ้อยเปิดปากรับสารภาพ พร้อมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหา นายสมเกียรติฯ คนลงมือลั่นไกฆ่า ที่พักอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนต์ในพื้นที่ เขตบางกะปิ กทม. เชิญตัวมาซักถาม ซึ่งนายสมเกียรติฯ ก็เปิดปากยอมรับว่า เป็นผู้ร่วมกันก่อเหตุฆ่านายสุพจน์ฯ จริง และปืนที่ใช้ก่อเหตุได้นำไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์เก๋งซึ่งจอดทิ้งไว้ในบริเวณสุขุมวิท 101 ซอยปุณ ณวิถี 43 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจยึดอาวุธปืนฑูตสังหารเป็นลูกโม่ขนาด .38 นิ้วไม่มีหมายเลขทะเบียน พร้อม กระสุน 13 นัด ซองพกหนัง 1 ซอง ซองใส่กระสุน 1 ซอง

มูลเหตุจูงใจในการฆ่าครั้งนี้นายสมเกียรติฯอ้างว่า ตัวเองมีศักดิ์เป็นพี่เมียของผู้ชาย และผู้ชาย มีพฤติกรรมชอบเสพยาเสพติด เวลาเมายาเสพติดชอบขู่อาฆาตตน ชอบใช้ขวดเบียร์ขวดสุราขว้างปาใส่ รั้วเล้าไก่ที่ตนพักอาศัยเลี้ยงไก่อยู่ และตนเองก็เคยถูกแก๊งเสพยาเสพติดดักยิงแต่รอดมาได้ถึง2ครั้ง โดยเชื่อว่า น้องเขยคือผู้ตายมีส่วนรู้เห็น เนื่องจากน้องเขยอยู่ในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด คอยนำข้อมูลความเคลื่อนไหวของ นายสมเกียรติฯไปแจ้งแก่ผู้ค้ายาเสพติด ประกอบกับเคยทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรงมาก่อน หากไม่ลงมือก่อน ตัวเองก็ต้องถูกฆ่า…