ผบช.ภ.7 ปปส.ภาค 7 แถลงข่าวตำรวจนครปฐมตั้งด่านเจอขนยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ดขนลงใต้ ขยายผลทำเป็นกระบวนการส่งต่อเป็นทอดทอด ใช้ทั้งรถเก๋งรถบัสรถทัวร์ถ้ารอดรับ 7 แสน

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.09น.ที่ชั้นล่างอาคารกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ศูนย์ฝึกตำรวจภูธรภาค 7) อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตัวแทน พลตำรวจโท กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 7 พลตำรวจตรีคำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอก ไชยา สุนทรกิจ รองผู้บังคับการ สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 พันตำรวจเอก ปรีดา อิ่มเจริญ รองผู้บังคับการ ตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอก ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐม พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงาน ปปส.ภาค 7 ผู้แทน เจ้าหน้าที่ ทหาร รส.ม.พัน19 พล.ร.9 พร้อมชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม ตรวจยึดยาบ้าจำนวน 220,000เม็ด(110มัดๆละ2,000เม็ด) พร้อมทรัพย์สิน ที่เชื่อว่า น่าจะได้มาจากการค้ายาเสพติดประกอบด้วย รถยนต์เก๋ง Toyota Corolla สีดำหมายเลขทะเบียน 2 กย 5761 กรุงเทพมหานครจำนวน 1 คันรถบัสโดยสาร 2 ชั้นสีม่วงขาวทะเบีบนป้ายเหลือง 32-1611 กรุงเทพพระมหานคร จำนวน 1 คัน ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายซาการียา มะสาแมอายุ 51 ปี(เสื้อดำ)อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 ตำบลพร่อน อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา (คนขับเก๋งบรรทุกยาบ้าของกลางมาถูกจับ) นายจิรศักดิ์ ล้อนอาอรีย์ อายุ 31 ปี(เสื้อสีฟ้านั่งมาในรถเก๋งขณะถูกจับกุม)อยู่บ้านเลขที่ 7 ถนนปักษาสวรรค์ ตำบลบ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และนายวรันดร ดีกิจ อายุ 41 ปี(เสื้อลายสก๊อตเจ้าของรถบัสซึ่งเป็นนายจ้างและคนสั่งการให้ผู้ต้องหา 2 คนแรกไปรับยาเสพติดของกลาง)อยู่บ้านเลขที่ 310/108 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมืองกรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่องสมุดบัญชีธนาคารจำนวน 4 เล่มพร้อมบัตรเอทีเอ็มจำนวน 2 ใบ

พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงว่า สืบเนื่องจากการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ และวันตรุษจีนระหว่างวันที่ 12-21 กุมภาพันธ์ 2561 ของตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ซึ่งเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2561 เวลาประมาณ 02.09 น. ตามแผนพิทักษ์ประชาตามนโยบายของตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 , พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.กฤษณะ ศิริปิยะวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.ปิยะ สุขประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต. สมชาย รักเสนาะ ผบก.สส.ภ.7 , พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม ,พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม , พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม , พ.ต.อ.สุภาพ วัยนิพิฐฺพงษ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.สมชาติ ขันบุรี รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครปฐม ,
พ.ต.ท.เฉลิมฤทธิ์ ถาวร สวป.สภ.เมืองนครปฐม , ร.ต.อ.ปรมะ วิไลลักษณ์ตระกูล รอง สวป.สภ.เมืองนครปฐม ร.ต.ท.ธวัชชัย จำปาอ่อน รอง สวป.ฯ พร้อมพวก
พ.ต.ท.ชาติภัทร พิเนตรบูรณะ รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.พุฒิธร สมพงษ์ สว.สส.ฯ พร้อมพวก

โดยได้ดำเนินการภายใต้นโยบาย ของ พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เน้นย้ำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ในจังหวัดนครปฐม ปฏิบัติ ปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ตรวจยึดรถยนต์และรถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ถ่ายรูปทำประวัติกลุ่มผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่เป็นประจำ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม นำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาที่สำคัญ ดังกล่าว ตากการตั้งจุดสกัด อยู่บริเวณถนนเพชรเกษมขาออก หน้าร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ตำบลสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยจับกุม
นายซาการียา มะสาแมอายุ กับ นายจิรศักดิ์ ล้อนอาอรีย์ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 220,000 เม็ด ก่อนจะขยายผล จากการรับสารภาพของผู้ต้องหา 2 คนแรกไปจับกุม และ นายวรันดร ดีกิจ เจ้าของรถบัสซึ่งเป็นนายจ้างและคนสั่งการให้ผู้ต้องหา 2 คนแรกไปรับยาเสพติดของกลาง) ได้ในท้องที่ อำเภอบ้านโป่งจังหวัดราชบุรี แจ้งฐานความผิดว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

พฤติการณ์ในการจับกุม เมื่อวันที่19 กุมภาพันธ์ 2561 เวลาประมาณ 02.09 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดชั่วคราว บริเวณหน้าร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ ถ.เพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น โคโลลา สีดำ หมายเลขทะเบียน 2 กย 5761 กทม. มีนายซาการียา มะสาแม (บังยา) เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว และนายจิรศักดิ์ ล่อนอารีย์ (บี) เป็นผู้โดยสาร(ทราบชื่อภายหลัง)ซึ่งนั่งอยู่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ ขับเข้ามาในบริเวณจุดตรวจจุดสกัดโดยมีลักษณะท่าทางพิรุธต้องสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมให้สัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น พบของกลาง จำนวน 5 รายการ ดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่จับกุมจึงได้จับกุมตัวและได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ( เมทแอมเฟตามีน ) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

หลังรายงานผู้บัญชา เพื่อทำการขยายผล นำไปสู่จับกุมตัวนายวรันดร ดิกิจ ผู้สั่งการได้ที่พื้นที่ จ.ราชบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางอีก จำนวน 4 รายการ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และจะได้ทำการขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูล การขยายผล ทราบว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าพึ่งกระทำการ เป็นครั้งแรก โดย นายวรันดร ซึ่งเป็นเจ้าของรถบัสทัวร์ และเป็นนายจ้างของผู้ต้องหา 2 คนแรก ได้รับงานมาจากนายทุน ให้ไปรับยาเสพติด ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ในกทม แล้วนำมาเปลี่ยนถ่าย ใส่รถบัสเพื่อจะนำ ไปส่งให้กับนายทุนที่จังหวัดทางภาคใต้ แต่มาถูกจับเสียก่อน ซึ่งหากหลุดรอดพ้นไปได้จะได้ค่าจ้างทั้งสิ้นจำนวน 7 แสนบาท อีกครั้งตัวของนายวรันดร เอง ก็เสพยาบ้าด้วย สำหรับข้อมูลของนายทุนผู้ว่าจ้าง จากการขยายผล นายวรันดร ได้ให้ข้อมูลกับชุดจับกุมแล้วทั้งหมด