เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวทราบว่า ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม มีสองลุงป้า ได้บนเรื่องขายที่ ไว้กับกุมารทองสมบัติ วัดไผ่ล้อมว่า ให้ขายที่ดินได้จะนำรถจักรยาน 20 คันมาแก้บน จึงเดินทางมาที่วัดไผ่ล้อม พบกับสองลุงป้า ทราบชื่อ คือ นายบวร ไชยกูล อายุ 60 ปี และ น.ส.พระชนันท์ จงศักดิ์สวัสดิ์ อายุ 55 ปี บ้านอยู่ จังหวัดสมุทรปราการ และได้สั่งให้ร้านนำรถจักรยาน จำนวน 20 คัน มาส่ง เพื่อมาแก้บนให้กับกุมารทองสมบัติ ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาหลวงพ่อพูล ที่หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน บูรณะขึ้นใหม่อย่างวิจิตร โดยจะมีสาธุชนและนักเสี่ยงโชคเดินทางมาบนบานกับกุมารทองสมบัติ ส่วนใหญ่เชื่อว่าเมื่อมาวัดไผ่ล้อมแล้วต้องมาบนขอสิ่งต่างๆที่ตนหวัง และสามารถบันดาลโชคลาภให้เงินทองไหลมาเทมา สมดังที่ขอไว้ทุกสิ่งอย่าง เมื่อไปถึงพบว่าเจ้าหน้าที่วัดกำลังเข็นรถจักรยานเข้ามาจอดตั้งอยู่ด้านหน้ากุมารสมบัติ รวม 20 คัน วางเต็มทั่วพื้นที่อย่างสวยงาม
จากการสอบถามนายบวร ผู้ที่นำรถจักรยานมาทำการแก้บนกุมารสมบัติ ครั้งนี้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ตนและภรรยาชักชวนกันมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดไผ่ล้อม และเห็นมีคนมาไห้วกุมารทองสมบัติ ทั้งยังสังเกตเห็นว่ามี รถแข่งเด็กเล่น รถบังคับ รถจักรยาน ทั้งคันเล็กและใหญ่มาตั้งวางเรียงรายกันจำนวนมาก จึงคิดว่านี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าผู้คนมักประสบความสำเร็จจึงนำสิ่งของดังกล่าวมาแก้บน ตนจึงชวนภรรยาเข้าไปไหว้บนบานศาลกล่าว เนื่องจากมีที่ดินอยู่จำนวน 100 ตามรางวา อยู่ในพื้นที่เขตศรีนครินทร์ กทม. บอกขายจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งบอกขายมายาวนานแล้วแต่ไม่มีคนติดต่อขอซื้อ ประกอบกับช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่ด้วย จึงบนบานกับกุมารทองสมบัติว่า หากขายได้ จะนำรถจักรยานมาแก้บนให้20คันปรากฏว่า 3 เดือนผ่านไป มีคนมาติดต่อขอซื้อเรียบร้อย จึงรีบกลับมาแก้บนดังกล่าวเชื่อว่ากุมารสมบัติทำให้สำเร็จ จากนั้นมอบจักรยานทั้งหมดให้กับวัดไผ่ล้อม เพื่อนำไปต่อยอดบุญมอบให้เด็กนักเรียนในที่ทุรกัดารต่อไป ส่วนเรื่องเลขเด็ดหรือการเสี่ยงโชคแล้วแต่บุญวาส แต่ขอเลขสวย เป็นเลข 20 ตามจำนวนรถจักรยานที่มาแก้บน
กุมารทองสมบัติองค์นี้ จากประวัติ หลวงพ่อพูลอดีตเจ้าอาวาส ท่านได้เดินทางไปเป็นพระคู่สวดให้กับบ้านลูกศิษย์ที่นิมนต์ขึ้นบ้านใหม่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี หลังจากประกอบพิธีเสร็จสิ้น เจ้าของบ้านได้เปรยกับหลวงพ่อพูลว่า ได้เลี้ยงกุมารไว้องค์หนึ่ง แต่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จอยากยกให้ไปอยู่ที่วัด หลวงพ่อพูลท่านจึงรับอุปถัมภ์มาไว้ที่วัดไผ่ล้อม เพราะจากการเพ่งกระแสแล้วถูกโฉลกกับกุมารองค์นี้มาก การเดินทางกลับวัดในครั้งนั้นทำให้ท่านได้กุมารทองกลับมาด้วย สำหรับกุมารทองที่นำกลับมานั้นมีขนาดองค์ใหญ่ เนื้อโลหะสำริด มีฐานกว้างขนาด 9 นิ้ว สูง 15 นิ้ว เป็นกุมารทรงโบราณอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี หลวงพ่อพูลท่านจึงได้นำมาประดิษฐานไว้ที่กุฏิของท่าน และตั้งชื่อให้ว่ากุมารทองสมบัติ ซึ่งนับเป็นกุมารทององค์เก่าแก่องค์แรก และองค์เดียวของหลวงพ่อพูล ซึ่งได้แสดงอิทธิฤทธิ์ออกช่วยเหลือผู้คนและญาติโยม สาธุชน ที่เดินทางมาขอพรโดยตลอด มีความเชื่อว่าหากใครได้บูชาหรือกราบไหว้กุมารสมบัติ จะเชื่อว่าสามารถบันดาลโชคลาภให้เงินทองไหลมาเทมา รวมไปถึงการค้ากิจการก็เจริญเติบโตไปด้วย
