เหตุการณ์โหดดุทมิฬยิงดับ และเจ็บ รายนี้เกิดขึ้นที่ท้องที่สอบสวนสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑลอำเภอพุทธมณฑลจังหวัดนครปฐม

พันตำรวจเอกสุธี พรหมมาลี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2561 ร.ต.อ.กิจจพัฒน์ จิตติราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.พุทธมณฑล รับแจ้ง เหตุฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืน พาอาวุธปืน เหตุเกิดที่ ตึกแถว เลขที่ 354 ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ต่อเนื่องบริเวณจุดกลับรถ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ม.6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2561 เวลาประมาณ 19.00 น. ถึง 19.25 น. กินรายงานผู้บังคับบัญชาส่วนเกี่ยวข้องทราบก่อนร่วมรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พันตำรวจโท บุญพา ปาระแม รองผู้กำกับ(สอบสวน) พร้อมประสาน ศพฐ. 7 แพทย์ นิติเวช ศูนย์กู้ชีพกู้ภัยอาสาสมัครกู้ภัย ส่วนรับผิดชอบพื้นที่ ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณจุดกลับรถ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ม.6 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสันสีขาว ทะเบียน 1ฒค 452 กทม.จอดปาดหน้าเบียด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้าสีแดง ทะเบียน กง 1706 นครปฐม อยู่บนถนน พบผู้บาดเจ็บถูกกระสุนปืน ยังไม่ทราบ ชนิดและขนาด ยิงเข้าบริเวณลำตัวบริเวณหน้าอกทราบชื่อต่อมาคือ นายสมพิศ พุ่มสงวน อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 หมู่ 3 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี

และ น.ส.กาญจนา พุ่มสงวน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/1 หมู่ 3 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี รวมทั้งได้จับกุมตัว นายพิชัย สุขศิริ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/87 ถ.สุภาพบุรุษ แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ไม่ได้พร้อมอาวุธปืน cz แบบ Automatic ขนาด 9 มม 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน ปลอกกระสุนก่อนนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล และนายสมพิศ ได้เสียชีวิต ในเวลาต่อมา

จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมพิศฯ น.ส.กาญจนาฯซึ่งเป็นพี่น้องกัน พร้อมพวก ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างรวม 4 คนพากันเดินทางไปที่ตึกแถวบ้านของนายพิชัยผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนรับเหมาก่อสร้าง เลขที่ 354 ถนนพุทธมณฑล สาย 3 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เนื่องจากนัดหมายไว้ว่าเรื่องทำงานก่อสร้าง โดยนายสมพิศฯและน.ส.กาญจนาฯนำคนงาน คือ นายแดง แร่เพชร และนายมานพ ไม่ทราบนามสกุล มาด้วย โดยพากันนั่งรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้าสีแดง ทะเบียน กง 1706 นครปฐม ปรากฏว่า นายพิชัยฯ เจ้าของบ้าน กับ น.ส.กาญจนาฯเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และนายพิชัยฯ ได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด ทะเบียนปืน กท.3900744 (ทราบจากการตรวจยึดได้ภายหลัง) ออกมาเล็งใส่ น.ส.กาญจนาฯ นายสมพิศฯ พี่ชายที่มาด้วยเห็นเหตุการณ์เกรงว่า น.ส.กาญจนาฯจะได้รับอันตราย จึงเข้าห้ามปราม พร้อมพยายามแย่งปืนจากนายพิชัยฯ จึงถูกนายพิชัยฯ ยิงด้วยอาวุธปืน จำนวน 1 นัด กระสุนปืนถูกหน้าอกด้านขวา ล้มลง

ขณะที่ น.ส.กาญจนาฯ กับพวกที่มาด้วยตกใจในเหตุการณ์จึงพากันวิ่งไปหลบซ่อนในอาคาร พอสิ้นเสียงปืน น.ส.กาญจนาฯ กับพวก พากันออกมาจากที่หลบซ่อน ช่วยกันนำร่าง นายสมพิศฯขึ้นรถยนต์เก๋งที่ขับมา ผ้าม่าน ของพี่ชาย จะไปส่งโรงพยาบาลพุทธมณฑล โดยขับฯมุ่งหน้าไปทางถนนอุทยาน มาทางพุทธมณฑล สาย 4 ส่ง โดย น.ส. กาญจนาฯเป็นผู้ขับ มีนายสมพิศฯผู้ยาดเจ็บกับลูกน้องอีก2คนนั่งอยู่เบาะหลัง

ขณะนั้นพบว่า นายพิชัยฯมือปืน ได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน ทะเบียน 1ฒค 452 กทม ติดตามมา และปาดหน้าบังคับให้ น.ส.กาญจนาฯ หยุดรถ โดยขับรถปาดเบียด ขณะที่รถแล่นอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 โดนรถยนต์เก๋งของผู้บาดเจ็บต้องจอดลง จากนั้นนายพิชัยฯได้ออกจากรถยนต์ พร้อมอาวุธปืน โดดขึ้นไปยืนที่ฝากระโปรงรถยนต์เก๋ง พร้อมยิงปืนใส่เข้าไปที่ น.ส.กาญจนาฯ จำนวน 2 นัด นายแดง กับพวก ได้ดึงตัว น.ส.กาญจนาฯ เอี้ยวไปทางด้านหลังทำให้กระสุนปืนถูกเข้าด้านหลังซ้าย จำนวน 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ

ขณะนั้น นาย อดิศักดิ์ฯลูกชายของนายพิชัยฯมือปืนขับรถจักรยานยนต์ตามมาทันเข้าแย่งอาวุธปืน เจ้านาย พิชัยฯไว้ได้ พร้อมทั้งพลเมืองดี ที่เห็นเหตุการณ์ได้ โทรศัพท์แจ้งเหตุไปที่ศูนย์วิทยุ สภ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่เกิดเหตุและสามารถจับกุม นายพิชัยฯพร้อมอาวุธปืนของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในที่เกิดเหตุเพนักงานสอบสวนเก็บปลอกกระสุนปืนได้จำนวน 2 ปลอก

จากการประมวลเหตุการณ์เบื้องต้น เชื่อว่ามูลเหตุ เกิดจากความขัดแย้งกันทางธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะได้สอบสวน สืบสวนข้อเท็จจริง ต่อไป