รองเลขาธิการ ป.ป.ส.เปิดโครงการประชุมชี้แจง “แนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ ในพื้นที่ ปปส.ภ.7

ป.ป.ส.เปิดโครงการประชุมชี้แจง

        เมื่อเวลา 10.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2561 ที่ห้อง Diamond สปอร์ตคลับโรงแรม The Royal James Golf Resort ศาลายา อำเภอพุทธมณฑลจังหวัดนครปฐม นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประชุมชี้แจง “แนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ ในพื้นที่ ปปส.ภ. 7 โดยมี นายธนากร คัยนันท์ ผอ.ปปส.ภ.7 กล่าวรายงาน ทำดีได้รับเกียรติจาก นายภิญโญ ประกอบผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอังกูร สุ่นกุล อำเภอพุทธมณฑล พันตำรวจเอกไชยาสงวนจีน รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมในพิธี มีผู้เข้าร่วมโครงการ จาก ศอ.ปส.ตร.ภ.7 หน่วยทหารในพื้นที่ ศอ.ปส.จ. ศป.ปส.อ. หัวหน้าไปรษณีย์จังหวัดทั้ง 8 จังหวัด ผู้แทนสำนักงานขนส่งจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนภาคธุรกิจเอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการรับจ้างขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์หรือทางไปรษณีย์ ประมาณ100 คน

ป.ป.ส.เปิดโครงการประชุมชี้แจง

         นายวิชัย ไชยมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “รัฐบาลได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด โดยเฉพาะ มาตรการด้านการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์และการรับจ้างขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นช่องทางในการกระจายยาเสพติดไปยังผู้เสพและผู้ค้ารายย่อย ในหมู่บ้านหรือชุมชนมากขึ้น โดยมักจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการติดต่อซื้อขาย เช่น เฟสบุ๊ค หรือไลน์ เป็นต้น และจะมีการส่งยาเสพติดที่มีการติดต่อซื้อขายให้ผู้ซื้อผ่านช่องทางการรับจ้างขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์หรือทางไปรษณีย์ ซึ่งจะเห็นได้จากสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดที่ส่งยาเสพติดผ่านช่องทางดังกล่าวมีมากขึ้นเป็นลำดับ ประกอบกับผู้รับจ้างขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์บางรายได้มีการปล่อยปละละเลย ให้มีการรับฝากส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์โดยไม่มีการจัดทำบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชนของผู้ส่งหรือผู้ฝาก รวมทั้งไม่มีการบันทึกรายละเอียดของผู้รับหรือผู้รับแทนเมื่อมีการส่งมอบสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์นั้น ซึ่งเป็นช่องว่างทำให้ไม่สามารถสืบสวนจับกุมผู้ฝากส่งและผู้รับยาเสพติดที่มีการส่งผ่านช่องทางดังกล่าวได้ และเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี (พ.ศ. 2558) ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมการกําหนดประเภทสถานประกอบการที่อยู่ภายใต้บังคับของมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ที่กำหนดให้ “สถานที่หรือที่เก็บสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ซึ่งผู้ประกอบการขนส่งใช้ประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์” เป็น “สถานประกอบการ” ที่อยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในสถานประกอบการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2558) ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ ที่กำหนดให้ “เจ้าของหรือ ผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบการรับจ้างขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์” มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ได้แก่ การจัดทำบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชนของผู้ส่งหรือผู้ฝาก รวมทั้งบันทึกรายละเอียดของผู้รับสิ่งของหรือผู้รับแทนเมื่อได้มีการส่งมอบสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ให้แก่ผู้รับ และต้องเก็บไว้เป็นเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ได้จัดทำบันทึก เป็นต้น

ป.ป.ส.เปิดโครงการประชุมชี้แจง

สำหรับในปี 2561 ปปส.ภ.7 ได้จัดโครงการประชุมชี้แจง “แนวทางการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบกิจการขนส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ ในพื้นที่ ปปส.ภ.7” ในวันที่ 18 มกราคม 2561 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจงให้เจ้าของหรือผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบการขนส่งสินค้า หรือพัสดุภัณฑ์ ไปรษณีย์ และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และมีส่วนร่วมในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงและกระจายยาเสพติดไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ รวมทั้งหมู่บ้าน หรือชุมชนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับสนับสนุนวิทยากรจาก กองกฎหมาย และ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ในการถ่ายทอดข้อกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติ ตลอดจนข้อบังคับทางกฎหมายที่ผู้ประกอบกิจการจะต้องพึงปฏิบัติอย่างถูกต้อง ต่อไป…

(แจ้งเบาะยาเสพติด โทร 1386)