สุพรรณบุรี ยกระดับ“วัฒนธรรมดนตรี – นาฎศิลป์อาเซียน” สู่เครือข่ายเมืองสร้างสวรรค์ขององค์การยูเนสโก

วันนี้(21 ม.ค.63) ที่ นายนิมิต  วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวขณะเป็นประธานเปิดการอบรมความรู้เชิงปฏิบัติการวัฒนธรรมดนตรี – นาฎศิลป์อาเซียนในภูมิภาค พ.ศ. ๒๕๖๓ (ASEAN Music & Dance Connectivity 2020)  ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มกราคม ๒๕๖๓  ณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาลัยเขตสุพรรณบุรี  ว่า




ตามที่สำนักงานพื้นที่พิเศษ ๗ (อพท.๗) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้สร้างสวรรค์กิจกรรมที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อบุคลากรทางการศึกษานักเรียน และประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี การจัดกิจกรรมนี้มุ่งเน้นที่ผู้ประกอบวิชาชีพครู เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะในแนวทางการจัดการเรียนการสอนด้านดนตรี-นาฏศิลป์ เพื่อสร้างเครือข่ายด้านศิลปะและวัฒนธรรมเชิงสร้างสวรรค์ ร่วมกันในกลุ่มประเทศอาเซียน

ที่สำคัญ ยังเป็นกิจกรรมหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองสุพรรณบุรีสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสวรรค์ Creative City และเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันการพัฒนาเมืองสุพรรณบุรีให้เป็นเมืองดนตรีเพื่อยกระดับไปสู่เมืองการเข้าร่วมเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสวรรค์ขององค์การยูเนสโกต่อไป  ซึ่งหวังว่าผู้เข้ารับการอบรมทุกท่าน จะได้รับความรู้ความเข้าใจและได้รับประโยชน์อย่างดียิ่ง

ด้านนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดอบรมในครั้งนี้  เนื่องจากมติที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาเมืองสร้างสวรรค์สุพรรณบุรี เห็นชอบให้จังหวัดสุพรรณบุรีพัฒนาเมืองสู่เครือข่ายเมืองสร้างสวรรค์ (Creative City Network) ด้านดนตรีขององค์การยูเนสโก และได้ส่งข้อเสนอเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสวรรค์ในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาเมืองสร้างสวรรค์สุพรรณบุรี อพท. จึงได้สานต่อเรื่องนี้อย่างจริงจังในการขับเคลื่อนเมืองสร้างสวรรค์สุพรรณบุรีให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานพื้นที่พิเศษ ๗ หรือ อพท. ๗  กับมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประสานความร่วมมือสนับสนุนวิทยากรดนตรี-นาฏศิลป์อาเซียน ๑๐ ประเทศ จำนวน ๒๐ คน  ผู้ประกอบวิชาชีพครูอาจารย์ในเขตพื้นที่พิเศษ ๗ เมืองโบราณอู่ทองและพื้นที่เชื่องโยง ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งจะบูรณาการร่วมมือกันในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน ๒๐๐ คน