กรมชลประทานเดินเครื่องจ้างแรงงานช่วยเกษตรกรขาดรายได้ บรรเทาความเดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบช่วงภัยแล้ง-วิกฤติโควิด 19

นายอุดมพร ผาสุก ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว สำนักชลประทานที่ 12 กรมชลประทาน อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี




เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยประสบสภาวะวิกฤตไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง โดยเฉพาะวิกฤติการณ์โควิด 19 อ่างเก็บน้ำกระเสียว ได้รับผลกระทบ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างในปีที่ผ่านมามีน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำกระเสียวจากความจุ 299 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 54 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นปริมาณน้ำใช้การอยู่ที่ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ในปีนี้ทางโคนงการฯไม่สามารถที่จะส่งน้ำเพื่อการเกษตรได้ ส่งได้เพียงเพื่ออุปโภค-บริโภคเท่านั้น และน้ำในอ่างกระเสียวถ้ากรณีไม่มีฝนตก จะส่งให้ชาวบ้านได้ถึงเดือนตุลาคม จึงไม่สามารถส่งให้เกษตรกรได้

ทางกรมชลประทาน โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ในส่วนของมาตรการการจ้างแรงงาน เพื่อการเสียโอกาสการที่ไม่ได้ทำนาปรัง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียวฯ จึงเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้จึงได้ดำเนินโครงการจ้างแรงงาน

เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ตามนโยบายช่วยเหลือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 63 ที่ผ่านมา โดยมีเกษตรในพื้นที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 234 คน ใช้งบประมาณ 1.5 ล้านบาท ตามแรงงานขั้นต่ำ โดยจ้างแรงงานเกษตรกรทำเกี่ยวกับเรื่องการบำรุงรักษา การซ่อมแซมอาคารชลประทาน รวมทั้งตัดหญ้าริมคลอง ตามความสามารถของแต่ละคน

ทำให้เกษตรกรที่อยู่ในช่วงว่างเว้นจากการทำนา ได้เงินตรงนี้ไปประทังชีวิตได้ประมาณคนละ 7,000 บาท และพอใจกับโครงการนี้มาก เพราะเขาถือว่าเป็นรายได้หลักในช่วงนี้ เพราะไม่ได้ทำนา ไม่มีเงินเข้าบ้าน อย่างไรก็ตามงบประมาณดังกล่าวจะช่วยเหลือเกษตรกรได้ประมาณ 3 เดือนจากนี้ไป