ผู้การสุพรรณฯตั้งชุดเฉพาะกิจหาหลักฐานเพิ่มคดีข่มขืน ป.6 มั่นใจผู้ต้องหาไม่รอด พี่สาวเหยื่อเข้าพักที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุพรรณบุรี




กรณีในสังคมไทยเสื่อมหนัก เมื่อเครือญาติหลายคนในครอบครัวของ เด็ก ป.6ก่อเหตุบังคับข่มขืนอย่างต่อเนื่องนานถึง 2 ปี พร้อมใช้อาวุธมีดขู่บังคับไม่ให้เหยื่อนำเรื่องราวบัดซบไปบอกใคร จนกระทั่งเหยื่อมีอาการปวดท้องพี่สาวจึงพาไปหาหมอ จึงทราบเหยื่อถูกกระทำชำเรา จนนำไปสู่การแจ้งความจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ใหญ่ได้จำนวน 5 ราย และยังมีเด็กเอี่ยวด้วยอีก 2 ราย ด้านพี่สาวเริ่มผวาภัยมืดหลังถูกข่มขู่หนัก หลังจากหน่วยงานราชการต้องเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยให้ ตามที่เนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิ.ย.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อัยการจังหวัดสุพรรณบุรีคดีศาลแขวง ได้ลงพื้นที่ เพื่อดูสภาพความเป็นอยู่และข้อเท็จจริงด้วยตนเองว่าข้อมูลที่ได้รับมามีความเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งเพื่อเก็บข้อมูลไว้ในการประเมินเรื่องของคดี ส่วนตัวเด็กก็จะประเมินสภาพแวดล้อมในชุมชนด้วย ถ้าดูแล้วไม่ดีผู้ปกครองไม่สามารถเลี้ยงดูให้ปลอดภัยได้ ก็ต้องดำเนินการถอนอำนาจการเลี้ยงดูของผู้ปกครองบุญธรรมเพื่อไปหาที่อยู่ใหม่และมีชีวิตใหม่ ส่วนถ้ามีพฤติกรรมการข่มขู่ ทำร้าย กดดัน ไม่ให้พูดความจริงจนคดีเปลี่ยนก็จะมีการเรียกผู้ที่ข่มขู่มาทำทัณฑ์บน ส่วนตัวผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวมาถ้ามีพฤติกรรมใหม่ ก็สามารถขอถอนประกันได้ โดยขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน หากมีการข่มขู่เกิดขึ้นก็ไปให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนแล้วยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอถอนประกันต่อไป

ส่วนที่โรงเรียนวัดประชุมชน ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี นายชนะ สุ่มมาสต์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียนสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย น.ส.จีระวรรณ ปักกัดตัง ผู้อำนวยกลุ่มคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิเด็ก สพฐ. ได้นำนักจิตวิทยาของกระทรวงศึกษาธิการ ไปประชุมร่วมกับนายกเทศบาลตำบลบ้านโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูประจำชั้นที่เด็กเรียนอยู่ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อหาข้อมูลและแนวทางช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งเตรียมการจัดหาโรงเรียนเพื่อรองรับการย้ายสถานที่ศึกษาหากเด็กต้องการจะย้ายโรงเรียน จะได้ประสานกับโรงเรียนที่มีความพร้อมในการรับน้องซึ่งกำลังจะขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้อยู่ในความดูแลของโรงเรียนที่น้องมีความประสงค์จะเข้าไปเรียนและมีความปลอดภัย  เพราะจากประวัติการเรียนของน้องนักเรียนหญิงที่ถูกกข่มขืนรายนี้ มีผลการเรียนที่ดี ทุกครั้งที่ถูกส่งไปแข่งขันระดับประเทศก็ได้คะแนนสูงมาตลอด  ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องสภาพจิตตามที่กลุ่มผู้กระทำผิดกล่าวอ้าง




นางอุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า บ้านพักเด็กมีหน้าที่ในการให้การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กหญิงผู้เสียหาย ส่วนการคุ้มครองพยาน เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยุติธรรมจังหวัดที่จะต้องดำเนินการ ส่วนพี่สาวเหยื่อกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่าจนถึงตอนนี้แม้จะรู้สึกผวาภัยมืด ก็คิดว่าสิ่งที่ทำคือความยุติธรรมและความถูกต้อง ไม่ได้มาเข้าข้างใครเพียงเพราะเป็นญาติกันเพื่อรักษาน้ำใจในการปกปิดความผิดแบบนั้นตนทำไม่ได้ ยอมรับว่ากลัวที่นำเรื่องนี้ออกมาแฉแต่ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่สิ่งที่ทำนั้นอยากให้ความจริงปรากฏ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับการลงโทษ เพราะน้องสาวโดยกระทำโดยจากคนกลุ่มนั้นที่เป็นญาติกันจริงๆ พี่สาวเหยื่อยังกล่าวว่าบรรดาเครือญาติกลุ่มผู้ต้องหายังหาว่าตนเนรคุณทำกับเขาได้อย่างไร ตนก็ไม่อยากเนรคุณแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ต้องการความยุติธรรมความถูกต้องให้น้อง ตายก็ต้องตาย ต้องขอขอบคุณหน่วยงานราชการที่เข้ามาดูแลความปลอดภัยและให้ความมั่นใจว่าไม่มีใครทำร้ายตนได้ ตนก็รู้สึกอุ่นใจ

นายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุดูสภาพเป็นอยู่ของพี่สาวเหยื่อเพราะห่วงเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี สั่งการมาเป็นพิเศษ ให้จัดหาที่อยู่ที่ปลอดภัยโดยให้ไปอยู่ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สุพรรณบุรี

ด้าน พล.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่าผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวออกไปนั้น ตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว แต่ญาติได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ที่มีหลักเกณฑ์ในการให้ประกันตัวอยู่แล้ว แต่แม้ 1 ในผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัว ขอยืนยันว่าผู้ต้องหาจะไม่สามารถไปข่มขู่ ทำร้ายผู้เสียหายหรือคนใกล้ชิดของผู้เสียได้ในทุกกรณี และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดคนเข้าไปดูแลคุ้มครองแล้ว ส่วนหลักฐานในการดำเนินคดีมีหลักฐานชัด ไม่มีผิดพลาดในเรื่องของขั้นตอนการดำเนินคดี โดยเฉพาะผลพิสูจน์ทางการแพทย์ชัดเจน และยังมีหลักฐานอื่นที่สามารถมัดตัวกลุ่มผู้ต้องหาได้แน่นอน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เกรงว่าจะไปส่งผลต่อรูปคดี และขณะนี้ได้จัดตั้งทีมสืบสวนสอบสวนเฉพาะกิจเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเพื่อให้คดีมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น ส่วนกรณีผู้ต้องหาอ้างว่าน้องสติไม่ดีนั้นไม่ใช่ เพราะจากคำให้การของน้องรวมถึงการที่น้องรู้ว่าใครเป็นใคร ใครทำอะไรกับน้องบ้าง น้องมีสติดี และหลักฐานก็ชัดว่าญาติๆที่ก่อเหตุมีใครก่อเหตุในลักษณะไหนบ้าง