สุพรรณบุรี เจ้าของร้านนวดแผนไทยใจดี ให้โอกาสหนุ่มพิการทางสายตาสู้ชีวิต ตกงานจากพิษโควิด 19 กทม.ทำงานจนลูกค้าติดมีรายได้เลี้ยงตัวเอง

เรื่องราว ของหนุ่มพิการทางสายตา  สู้ชีวิต  หารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยอาชีพนวดแผนไทย หลังจากตกงาน  ทนพิษบาดแผลจากสถานการณ์โควิ19 ไม่ไหว    ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่สุพรรณบุรี  เดินหน้าสู้ชีวิตหางานทำ

ผู้สื่อข่าว  ได้เดินทางไปที่  ร้านนวดแผนไทย ชื่อว่า  เซนธาราสปา   ที่บ้านเลขที่  234/9  ม.6  ต.สนามชัย  อ.เมือง  จ.สุพรรณบุรี  ซึ่งเปิดเป็นร้านนวดตัว  นวดสปา  นวดอโรม่า นวดฝ่าเท้า   นวดประคบแผนไทย

โดยน.ส.อรอุมา  วีระกูล  อายุ  40  ปี  เป็นผู้บริหารร้านนวดแผนไทย     กล่าวว่าทางร้านเปิดให้บริการมา  4  ปี  โดยภายในร้าน มีพนักงาน   9  คน   โดยช่วงหลังจากสถานการณ์โควิด  19    นาย กัมพล  รุ่งเสรีกุล  อายุ  29  ปี  โทรเข้ามาขอสมัครงานที่ร้าน  โดยบอกว่าตกงานมาจาก  กทม.  จึงกลับมาหางานทำที่บ้านเกิดเพื่อมาอยู่กับครอบครัว  และบอกว่าตนเองจบหลักสูตรการนวดมาจากสถาบันแห่งหนึ่ง  จาก  จ.นครราชสีมา    ตนจึงบอกไปว่าทางร้านไม่ได้เปิดรับสมัครพนักงานที่เป็นผู้ชาย  พร้อมปฎิเสธ นายกัมพลจึงถอนหายใจแรงๆ  ใส่ทางโทรศัพท์   จึงได้สอบถามว่า  มีอะไรหรือเปล่าคะ    เขาจึงบอกว่า  “ผมเป็นผู้พิการทางสายตาและผมหางานยากมาก  ไม่มีใครรับผมเข้าทำงานเลย ผมเป็นพนักงานนวดอยู่ที่  กทม.  แต่เนื่องจากเกิดโรคระบาดโควิด  19  ทำให้ทางร้านที่  กทม.ไม่มีลูกค้าและปิดตัวลงไป  พอทราบเรื่องราวทางร้าน  ก็เลยแจ้งไปว่า  เดี๋ยวติดต่อกลับไป     จึงได้กลับมาปรึกษากับครอบครัวและตัดสินใจ  โทรกลับไป  ให้มาทำงาน  เพราะคิดว่า ถ้าเราไม่รับเขาเข้าทำงานเขาจะอยู่อย่างไร  ไม่มีอาชีพ  ปิดกั้นคนพิการ  ชีวิตเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป   จึงให้มาทำงาน    โดยผลตอบรับดีมาก  ลูกค้าประจำและลูกค้าที่ทราบข่าวต่างพากันมาใช้บริการ  เพื่อให้โอกาสเค้า  และ  ผู้ที่มาใช้บริการนวดจากเขา  ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่านวดดีมาก ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสเค้าได้พิสูจน์ความสามารถ และ ให้เค้ามีรายได้ และต่อสู้กับชีวิตต่อไป ทางร้านเอง ก็เห็นความตั้งใจและเค้าก็พยายามพิสูจน์ให้ทุกคนว่า สายตาพิการ แต่ใจที่สู้ไม่เคยพิการเลย

ด้านนาย กัมพล  พนักงานนวดแผนไทย  ผู้พิการทางสายตา    กล่าวว่า  ตนเองนั้นได้พิการทางสายตามาแต่กำเนิด  เป็นจอประสาทตาเสื่อม   แรกๆก็พอมองเห็นบ้าง   แล้วค่อยๆมองไม่เห็นอีกเลย   ที่คิดว่ามาทำอาชีพหมอนวดแผนไทยนี้  เพราะว่าเป็นอาชีพที่พึ่งพาคนอื่นน้อยที่สุด  และไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นและครอบครัว  ตนเองจบหลักสูตรการนวดมาหลายอย่าง  เช่น  นวดด้วยน้ำมันหอมระเหย  นวดฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ  นวดไทยเพื่อสุขภาพ  โดยใช้เวลาเรียนแต่ละหลักสูตร  150  ชั่วโมง  ถึงจะได้รับใบประกาศนียบัตร  เรียนจบมาประมาณ  4  ปี  ซึ่งแต่ก่อนเคยทำงานที่  กทม.แต่เนื่องจากเกิดโรคระบาดโควิด  19  ทำให้ทางร้านที่  กทม.ไม่มีลูกค้าและปิดตัวลงไป    ดีใจที่ทางร้านเซนธารา  จ.สุพรรณบุรี  ได้ รับตนเข้าทำงาน  และได้อยู่ใกล้ครอบครัว  ผลตอบรับก็ดีมีผู้มาใช้บริการตอบรับดีมาก  บางคนก็พูดให้กำลังใจ  ให้สินน้ำใจบ้าง  ก็ต้องของขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้คนพิการอย่างเราได้มีโอกาสยืนอยู่ในสังคม และมีโอกาสได้ใช้ความสามารถของตนเอง เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง  เลี้ยงครอบครัว    ไม่เป็นภาระของใคร   มีกำลังใจต่อสู้ชีวิต ต่อไป