พช. ปลื้มชาวไทยใช้เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล แก้ปัญหาวิกฤติชาติ

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 เวลา 15.30 – 16.00 .

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้ให้สัมภาษณ์สดในรายการเคลียร์คัด ชัดเจนช่อง NBT 2HD ในหัวข้อพัฒนาบ้านเกิดด้วยโคกหนองนาโมเดลซึ่งมีนายอรรทิตย์ญาณ คูหาเรืองรอง เป็นผู้ดำเนินรายการ ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ (NBT 2HD)

โดยนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า ชีวิตคนจะอยู่รอดปลอดภัยได้นั้น โดยพื้นฐานต้องสามารถพึ่งพาตนเองได้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา ต่อยอดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยพระองค์ได้ทรงพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวความสุข ความหวัง ความรัก ความสามัคคี ที่เกิดขึ้นในครอบครัว หากเราน้อมนำเอาหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่มาประยุกต์สู่โคกหนองนา จะสามารถดำรงชีวิตได้อยู่รอด กรมการพัฒนาชุมชนนอกเหนือจากขับเคลื่อนในการน้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนแล้ว เรื่องอื่น ก็ดำเนินการควบคู่ไปด้วยเช่นกัน เช่นเรื่องการรณรงค์ผ้าไทย การลดรายจ่ายด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวมีอาหารปลอดภัยรับประทานในครัวเรือน

กรมการพัฒนาชุมชนได้รับการอนุมัติงบประมาณจากรัฐบาล จำนวน 4,700 ล้านบาทเพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล ใน 73 จังหวัด 25,179 ครัวเรือน ยังมีงบประมาณที่จะดำเนินการในปี 2564 ให้กับ 14,000 กว่าครัวเรือน และในปีงบประมาณ 2563 ที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วใน 1,500 ครัวเรือน พัฒนาศูนย์เรียนรู้อีก 33 ศูนย์เรียนรู้ ได้ผลดีมาก งบประมาณทั้งหลายจะกระจายไปสู่ท้องถิ่น เพราะประกอบด้วยการฝึกอบรมสร้างความเข้าใจ ให้สามารถปฏิบัติได้จริง เข้าใจเหตุและผลของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ อีกส่วนหนึ่งคือการจ้างงาน มีผู้สนใจสมัครเกินเป้าหมาย กว่า300% ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสัมภาษณ์และจะประกาศผลในวันที่ 1 ธันวาคม 2563 พี่น้องทั้ง 3,246 ตำบลใน 73 จังหวัดก็จะได้เริ่มทำงาน ไม่ใช่แค่ให้มีรายได้ประจำเดือนเท่านั้น แต่มีเป้าหมายคือ ต้องการให้คนเหล่านี้ได้ผ่านกระบวนการเรียนรู้จากการฝึกทำจริงที่เรียกว่า Learning by doing เมื่อครบปีก็จะสามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่จะทำให้ผู้ที่น้อมนำไปใช้มีชีวิตที่เข้มแข็งมั่งคงไม่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิด และงบประมาณจะแปลงไปสู่การปรับปรุงพื้นที่ ให้มีที่อยู่อาศัย มีพื้นที่กับเก็บน้ำ พื้นที่ในการปลูกพืชผัก และมีป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่างหรือไม้ 5 ระดับ ซึ่งประโยชน์ของการมีต้นไม้ในพื้นที่ จะช่วยแก้ปัญหาเรื่อง PM 2.5 หมอกควัน ภาวะโลกร้อน ความแห้งแล้ง

โครงการนี้จะมีประโยชน์ทั้งนามธรรมและรูปธรรม เพราะหลักของปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไม่มุ่งเน้นให้คนเห็นแก่ตัว เน้นให้คนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีความรักความสามัคคีผ่านกระบวนการเอามื้อสามัคคี จะเห็นได้จากหลักการบันได 9 ขั้น โดยพื้นฐานคือเริ่มจากตัวเอง ต้องพออยู่ พอกิน พอใช้ พอร่มเย็น ต่อมาคือจะได้เผื่อแผ่ให้เพื่อนบ้าน ทำบุญทำทาน นำไปสู่การเก็บผลผลิต การต่อยอดแปรรูปเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้และขั้นสุดยอดคือทุกคนสามารถผนึกกำลังเป็นเครือข่ายกันได้

เป็นเรื่องที่น่าดีใจอย่างมาก คือ โครงการได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด มีสองหมื่นห้าพันกว่าครัวเรือน ใน 3,246 ตำบล ที่เข้าร่วมโครงการ และซึ่งยังค้างอยู่ในพื้นที่อีกหนึ่งหมื่นสี่พันกว่าครัวเรือน มีเสียงเรียกร้องอยากให้รัฐบาลได้ช่วยให้มีโอกาสดีในชีวิตเพิ่มเติม แสดงให้เห็นถึงผลตอบรับที่ดีเกินคาด หนทางรอดของประเทศชาติอยู่ไม่ไกลสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำรัสไว้ว่า เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ที่มีอยู่มากกว่า 40 ทฤษฎี 2 สิ่งนี้ จะเป็นเครื่องค้ำจุนให้ประเทศชาติเราอยู่รอดปลอดภัย และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 มีพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด

ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเกือบ สามหมื่นครัวเรือนในปี 2563 และอีกหมื่นกว่าครัวเรือนในปี 2564 ของกรมการพัฒนาชุมชนมีตัวตนที่แน่นอน ซึ่งคนเหล่านี้จะกลายเป็นต้นแบบขณะเดียวกันจะเป็นครูพาทำ เป็นพี่เลี้ยง และบวกกับคนที่ได้รับการจ้างแรงงานอีกเก้าพันกว่าคน อยู่ที่ไหนทำงานที่นั่น เป็นคนในพื้นที่ ไม่อพยพย้ายถิ่นฐาน คนเหล่านี้ทำงานเสร็จก็จะเห็นผลทันที เรื่องแรกคือ เขาจะมีพื้นที่สวยงามเพราะปรับปรุงเป็นโคกหนองนา ตามหลักสถาปัตย์ มี Landscape มีต้นไม้มีแหล่งน้ำ เหมือนรีสอร์ทประจำครัวเรือนประจำหมู่บ้านไปด้วย ขณะเดียวกันความดีของผลสำเร็จเห็นทันตา คือ จะพูดกันปากต่อปาก ขยายผลสำเร็จออกไป ที่สำคัญคือกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับงบประมาณส่วนหนึ่งให้ Gistda ไปทำระบบสารสนเทศ จัดทำภาพถ่ายดาวเทียมพื้นที่ทั่วประเทศสามารถย้อนหลังไปก่อนตั้งแต่ปี 2560 และดูได้ว่าปี 2563-2565 จะเป็นอย่างไร จะเป็นคุณูปการของโครงการเกิดขึ้นกับประเทศ เราจะมีแผนที่ของประเทศไทยที่ลงรายละเอียดถึงสภาพพื้นที่จริง สาเหตุที่ทำคือต้องการผลเชิงวิชาการ เพื่อเก็บข้อมูลทำวิจัยยืนยันว่า คุณูปการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร ภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ในเชิงประจักษ์

กรมการพัฒนาชุมชนไม่ได้ทำคนเดียว มีภาคีเครือข่าย โดยมีมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติที่เป็นต้นฉบับของการนำทฤษฎีใหม่มาประยุกต์เป็นโคกหนองนาโมเดล ของ ดร.วิวัฒน์ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ มีอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ส่ง ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล หรือ .โก้ และ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ หรือ.หน่า มาช่วย

ท่านที่สนใจอยากจะเข้าร่วมให้ไปติดต่อสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด โดยต้องลงชื่อเข้าคิวรอ เนื่องจากรัฐบาลได้อนุมัติงบมาให้กรมการพัฒนาชุมชนรอบแรกแล้วสองหมื่นห้าพันกว่าครัวเรือนแล้ว ขณะเดียวกันก็ไม่ปิดโอกาส อีกทางหนึ่ง ผู้สนใจก็สามารถศึกษาเรียนรู้ได้จากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน(ศพช.) ทั้ง 11 ศูนย์ และภาคีเครือข่ายอีก 22 ศูนย์ และอีกทางหนึ่งเรามีเว็บไซต์ มีFacebook สามารถเปิดดูศึกษาเรียนรู้ได้ และสามารถสอบถามได้ที่ข้าราชการของกรมการพัฒนาชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ทุกคนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวทิ้งท้าย