จงอยู่คนเดียวให้เป็น #หลวงพี่น้ำฝน

เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ในโลกสมัยนี้ คำว่าการอยู่คนเดียวนั้นคือคำสาปของปุถุชน เป็นสิ่งที่ปุถุชนล้วนไม่ปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่ไร้ญาติ ขาดมิตร ไร้คู่ครอง ทำอะไรก็ทำคนเดียว กินข้าวคนเดียว เดินห้างคนเดียว ไปเที่ยวคนเดียว ผู้ที่มีชีวิตดังนี้มักจะถูกคนอื่นถามว่า ไม่เหงาหรืออย่างไร ทำไมไม่ไปหาเพื่อนฝูง หรือหาคนรักสักคนมาทำให้สนุกหัวใจ ยิ่งถ้าแก่ตัวไป ใครจะดูแล ไม่อยากมีลูกหลานไว้ดูเล่นหรอไม่อยากมีเพื่อนไปเที่ยวด้วยกัน เล่นสนุกด้วยกันหรอ กินข้าวคนเดียวไม่เหงาหรอ ไปเดินห้างคนเดียวไม่เหงาหรอ ใครเป็นเช่นนี้ก็ดูจะแปลกแยกจากคนทั่วไป ใครที่มีสังคมมากมาย ก็หมายถึงชีวิตที่สนุกสนาน ดูดีมีสุข

แต่การอยู่คนเดียวคือ พรของอริยบุคคล เพราะธรรมชาติของมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ เกิดมาคนเดียว ตายไปก็ไปคนเดียว การอยู่คนเดียว การไม่คลุกคลีกับหมู่คณะ จึงเป็นสิ่งที่อริยบุคคลปรารถนา เพราะการอยู่คนเดียว ไม่เป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวาย ดังคำโบราณว่า มากคนก็มากความ

อย่างไรก็ตาม หากกล่าวดังนี้แล้ว ก็ดูเหมือนจะส่งเสริมให้ทุกคนไปเข้าป่า หาความสงบสุขแก่ตนเอง หากหมายความว่าอย่างนี้จริง ก็ดูจะไม่ถูกต้องนัก เพราะอาตมาไม่ได้กล่าวเรื่องนี้แก่บรรพชิตซึ่งเป็นผู้บวชแล้ว มีความตั้งใจแน่วแน่จะสละโลกียะทั้งปวงแล้วเป็นหลัก สำหรับคนทั่วไปแล้วนั้น เราต้องอยู่ในสังคม ต้องพบปะผู้คน เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่คนเดียวโดยสิ้นเชิง แต่เราก็ต้องอยู่คนเดียวให้เป็น

ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นนี้ ทุกคนในโลกล้วนเผชิญชะตากรรมเดียวกันคือ ต้องแยกตัวจากสังคม การไปพบปะสังสรรค์กับคนหมู่มากก็ทำได้ยากขึ้น หลายคนต้องทำงานที่บ้าน เรียนที่บ้าน อยู่กับหน้าจอ หลายคนประสบเคราะห์ร้ายติดโรคก็ต้องแยกไปรักษา ต้องแยกจากครอบครัวและญาติมิตร เราอาจจะได้เห็นภาพที่ผู้ป่วยต้องขึ้นรถพยาบาลจากบ้าน เดินไปตัวคนเดียว ยิ่งเป็นเด็กน้อยที่ติดโรค แล้วต้องเดินขึ้นรถพยาบาลไปเพียงคนเดียวก็ยิ่งน่าสะเทือนใจ ปกติเวลาใครไม่สบายก็ยังมีญาติมิตรไปเยี่ยมไข้กันได้ แต่โรคนี้ไปไม่ได้เลย และหลายคนก็เสียชีวิตลงด้วยโรคนี้ เรื่องนี้ยิ่งน่าสะเทือนใจ เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ญาติมิตรไม่มีโอกาสจะอำลาร่างผู้จากไป ส่งได้เพียงบันไดเมรุแค่นั้นจริง นับเป็นโรคที่ผู้จากไปต้องจากไปอย่างโดดเดี่ยวโดยแท้โดยไม่มีใครสามารถมาดูใจได้เลยสักคน

นี่แหละคือความโดดเดี่ยวรอบตัวเรา เป็นความโดดเดี่ยวที่เราทุกคนเผชิญพร้อมกัน แต่ปฏิกิริยาต่อความโดดเดี่ยวนั้นมีต่างกัน บางคนก็ชอบ แต่บางคนอยู่แทบไม่ได้ วันหนึ่ง ไม่ได้ออกไปไหน ได้แต่อุดอู้อยู่ในที่ส่วนตัว ก็เกิดความเครียดขึ้น จิตใจร้อนรุ่มกลุ้มนัก เรื่องนี้นับเป็นของปกติ แต่เราควรที่จะทำให้การอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่เราทำได้

การอยู่คนเดียวในที่นี้ คือ การอยู่กับใจของตนเอง เพราะที่ผ่านมา เราอาจจะไม่เคยมองเห็นใจของตนเองด้วยซ้ำ เพราะใจถูกสิ่งต่าง กระตุ้น แล้วเราก็ปล่อยให้ใจตอบสนองต่อสิ่งที่มากระตุ้นนั้น จนสุดท้ายเราก็ไม่อาจจะอยู่ได้โดยที่ใจขาดสิ่งที่มากระตุ้นและบำเรอใจของเรานั้นไปได้ กลายเป็นว่าเราต้องพึ่งพาสิ่งอื่น พึ่งพาบุคคลอื่นจนเราลืมไปว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่พึ่งพาได้มากที่สุดก็คือตัวเราเอง

เมื่อเราอยู่คนเดียว คืออยู่กับใจของเราเอง ไม่ปล่อยให้ใจไหลไปตามสิ่งที่มากระตุ้นมาบำเรอเปรอปนใจ เราก็จะเห็นใจของเราเองชัดเจนขึ้น ดังเมฆหมอกที่จางไปจนเห็นสิ่งต่าง ชัดขึ้น เราจะเห็นโลกภายนอกอย่างชัดเจน ปราศจากหมอกควันต่าง อาจจะไม่ใช่ภาพที่สวยงามน่าชม แต่ก็เป็นภาพความเป็นจริง เมื่อเป็นภาพความจริง ก็ย่อมทำให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ใจที่ไหลไปตามสิ่งต่าง นั้น ทำให้เราละเลยบางสิ่งที่ถูกหมอกควันบดบัง แต่ใจที่สงบ จะทำให้เห็นรอบด้าน รอบมุม เห็นว่าใจเรานั้นมีสภาพเป็นเช่นใด บางครั้งเราอาจมองไม่เห็นตนเองว่าแท้จริงแล้ว กายทวาร วจีทวารของเรานั้นเป็นเช่นไร อาจเจือด้วยสิ่งมัวหมองที่เกิดจากใจที่ซัดส่ายไปมาเป็นเวลานาน เมื่อเราเห็นชัดเจน เราก็สามารถแก้ไข ชำระล้างสิ่งมัวหมองเหล่านั้นได้ และเมื่อเห็นสิ่งต่าง โดยรอบโดยตลอดแล้ว ปัญญาก็ย่อมเกิดขึ้นได้จากตรงนี้ จากที่เรามองเห็นอะไรชัดเจนรอบด้านนั่นเอง นี่คือจุดประสงค์ที่เราจะต้องอยู่คนเดียวให้เป็น อยู่กับตนเองให้ได้ ไม่ใช่การแยกตัวออกไปอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นการมองเห็นใจตนเอง เห็นสภาพอันแท้จริงและมองเห็นศักยภาพของใจที่ขับเคลื่อนตัวเรา ว่าใจเรามีศักยภาพพอ และใจเราเท่านั้น ใจเราแต่เพียงผู้เดียวที่จะทำความเป็นไปให้เกิดขึ้นแก่ตัวเราได้ ใจของเราสามารถทำได้ สร้างการกระทำทางกาย และวาจาที่ดีได้

ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ที่เราต้องแยกตัวจากสังคม ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปจากเดิม สิ่งที่สำคัญก็คือ ต้องอยู่คนเดียวให้เป็น อยู่คนเดียวให้เห็นใจของเรา เห็นความเป็นจริง เพื่อที่เราจะได้เผชิญสิ่งต่าง ด้วยใจที่ตั้งมั่นและมองเห็นสิ่งต่าง ตามความเป็นจริง ตามสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน ในสถานการณ์เช่นนี้ที่เราทุกคนต้องใช้พลังใจในการฝ่าฟันไปให้ได้ เราควรอยู่กับตนเองให้เป็น อยู่เพื่อให้เห็นตนเอง และนำพาตนเองรอดในโลกนี้ได้ ขอเจริญพร