นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน ช่วยแม่ลูกอ่อน16 วัน ติดโควิด เร่งหา รพ.ให้ ติง จนท.บางคนไร้ใจ

นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน ช่วยแม่ลูกอ่อน16 วัน ติดโควิด เร่งหา รพ.ให้ ติง จนท.บางคนไร้ใจ

วันที่ 30 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้ทราบข่าวว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน ขอให้ส่งรถกู้ชีพ โดยกองทุนสวดเผาฟรี วัดไผ่ล้อม ไปช่วยเหลือรับหญิงสาวเพิ่งคลอดบุตรได้16วัน ซึ่งตรวจพบว่ามีการติดเชื้อทั้งแม่และลูก จากนั้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปตรวจสอบโดยพบว่า สาวที่เพิ่ง คือนางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร อายุ 20 ปี หรือเอิร์น ชาวอำเภอสามพาน จังหวัดนครปฐม ที่ได้กลับมาพักที่บ้านของสามี ที่บ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.คลองจินดา อ.สามพาน จ.นครปฐม พร้อมกับบุตรสาว คือน้องไอรินทร์ อายุ 16 วัน โดยทั้งคู่มีการป่วยร่วมกับคนในบ้านทั้งหมด 9 คน ซึ่งได้มีการประสานมาตั้งแต่ตอนเย็นของวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา

จากนั้นหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมจึงได้มีการโทรประสานไปยังโรงพยาบาลสามพราน ตามภูมิลำเนาของผู้ติดเชื้อ ทราบว่าเตียงสำหรับผู้ป่วยมีการใช้จนเต็มอัตราไม่สามารถจะรับผู้ป่วยได้อีกแล้ว และไม่มีเครื่องมือที่สามารถดูแลเด็กอ่อนได้ และได้ตรวจสอบตามเอกสารที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมพบว่ามีเตียงว่าง 6 เตียง จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อจะได้นำรถปฐมพยาบาลและเจ้าหน้าที่เพื่อจะนำตัวผู้เป็นแม่และลูกไปส่งเพื่อรับการรักษา โดยทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลนครปฐมได้รับปากว่าจะหาเตียงเพื่อดูแลทั้งแม่และเด็กให้

โดยช่วงเช้า รถกู้ชีพโดยกองทุนสวดเผาฟรี วัดไผ่ล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ออกไปรับ นางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร หรือเอิร์นและน้องไอรินทร์ ลูกสาว แต่ไม่สามารถมาส่งตรงได้เนื่องจากยังไม่มีใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงต้องขับรถพาวนไปที่ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อไปรับผลการตรวจก่อน และวนกลับมาที่โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อจะมาส่งตัวแต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถรับตัวแม่ลูกคู่นี้ไว้ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่า ด.ญ.ไอรินทร์ นั้นใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว ไม่สามารถรับตัวได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่และหลวงพี่น้ำฝน ได้เร่งประสานงานกระทั่งทางโรงพยาบาลนครปฐม ได้รับตัวแม่และเด็กเข้าไปรอเตียง ในเวลา 10.30 น. ซึ่งด.ญ.ไอรินทร์ นั้นมีอาการตัวร้อนแดงมากขึ้นและยังไม่ได้ดูดนมตั้งตาเช้าตรู่

นางสาวธิญาภรณ์ กลีบกำไร อายุ 20 ปี หรือเอิร์น ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ บอกว่า ตนเองได้ไปคลอดลูกสาวที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยได้ตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนหน้าที่จะทำการคลอด จนกระทั่งได้กลับมาพักที่บ้านสามี ซึ่งในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. รู้สึกมีอาการป่วย วันที่ 26 ก.ค.จึงได้พาน้องไอรินทร์ ไปตรวจที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว กระทั่งวันที่ 27 ก.ค. ทางโรงพยาบาลได้แจ้งมาว่า มีผลเป็นบวกคือติดเชื้อ ไวรัสโควิด-19

นางสาวธิญาภรณ์ บอกอีกว่าหลังจากทราบว่าตัวเองลูกสาว ทราบผลก็ได้ไปซื้อที่ตรวจมาจากร้านขายยาเพื่อมาตรวจผล ซึ่งพบว่าสามี แม่ตนเองและแม่สามี รวมถึงญาติในบ้านติดเชื้อเพิ่มอีก 7 คน รวมตนเองกับลูกเป็น 9 คน ซึ่งเป็นการติดเชื้อทั้งบ้านและน่าจะติดมาจากแม่สามีและแม่ของตนเองที่ได้ไปขายของในตลาดนัด “เมื่อคืนวันที่ 28 กรกฎาคม น้องไอรินทร์ เริ่มมีไข้ขึ้นและมีน้ำมูก เราตกใจว่าลูกเรายังเล็กมีการติดเชื้อกลัวอันตรายจึงได้บอกญาติและเราก็ได้พยายามโทรหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับรักษาตัวแต่ไม่มีใครรับสายหรือมีรับสายก็บอกว่าเตียงเต็มทั้งหมด ไม่มีใครรับสายเลยน้องไอรินทร์ก็ตัวแดงมากขึ้น ซึ่งญาติบอกว่าเห็นวัดไผ่ล้อมมีการดำเนินการเรื่องโควิด-19 น่าจะพอหาทางช่วยได้จึงได้ลองโทรมาหาและได้ให้กำลังใจรวมถึงยังได้พยายามโทรช่วยประสานมาเพื่อหาโรงพยาบาลให้หนูกับลูกซึ่งดีใจกมากเพราะหนูกลัวลูกของหนูจะเป็นอะไรไป” นางสาวธิญาภรณ์ กล่าว

ด้านพรระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า เคสนี้ได้รับเรื่องจากการที่มีใครก็ไม่รู้โทรมาขอความช่วยเหลืออาตมาก็ได้ส่งคนมาเช๊คแต่ก็ยากลำบากเพราะเขาติดเชื้อกันทั้งบ้าน ซึ่งมีคนที่รู้จักกันมาขอความช่วยเหลือซึ่งก็สงสารเพราะเด็กอายุแค่ 16 วันจึงได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสามพราน ซึ่งก็เครื่องมือไม่พอเตียงก็เต็ม ซึ่งได้ประสานต่อมาที่โรงพยาบาลนครปฐม ตั้งแต่เมื่อวานโดยเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานก็รับปากว่าจะให้เด็กเข้ามารับการรักษา แต่วันนี้มาถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงปฎิเสธรับ โดยเจ้าหน้าที่ก็บอกกลับมาว่าช่วยโทรไปหาผู้ใหญ่ให้สั่งการลงมาหน่อย อาตมาถามว่านี่คืออะไร “จะให้อาตมาโทรไปหาผู้ใหญ่ให้สั่งการลงมาอาตมาบอกว่าไม่ทำแน่นอน เพราะที่เห็นตรงหน้าเป็นเด็กอายุแค่ 16 วันถามว่ามนุษยธรรมอยู่ตรงไหน อาตมารับเผาศพโควิด-19 ฟรีจริงแต่ก็ไม่อยากจะเผา อย่างกรณีนี้จะรอให้เข้าอาการหนักหรือตายก่อนจะมาเผาอาตมาว่าไม่ถูกต้อง และกรณีอื่นก็มีแต่ก็ไม่อยากจะพูด ต้องถามเจ้าหน้าที่ที่จะรับไม่รับเด็กเข้ารับการรักษาที่ต้องให้ไปขอผู้ใหญ่ อาตมาไม่ทำ ถ้าอย่างนั้นให้เขาคิดก็แล้วกันว่าแล้วแต่เวรแต่กรรม ซึ่งรถรับส่งคนป่วยรับศพก็มีแค่คันเดียว เราก็ทำงานช่วยทั้งคนเป็นคนตาย วันนี้หลังจากรับส่งแม่ลูกคู่นี้แล้วก็ต้องไปรับศพไปส่งเผาตามวัดอื่นๆ ตามภูมิลำเนา อีก 8 ศพ เราก็ทำเต็มที่แล้ว” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทั้งแม่และน้องเอิร์น ได้ถูกรับตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว ส่วนพ่อสามีรักษาที่โรงพยาบาลวิชัยเวช ส่วนอีก 6 คนยังรอรับการรับตัวไปรักษาโดยหายาและประสานงานกันเอง ซึ่งขณะที่รถของวัดไผ่ล้อมไปรับแม่และน้องเอิร์น คนสูงอายุ 2-3 คน ได้ออกมาส่งและแจ้งขอความช่วยเหลือให้มีเจ้าหน้าที่มารับตัวไปรักษาบ้างเช่นกัน