นครปฐม สองสามีภรรยา อึ้งบารมีหลวงพ่อพูลวัดไผ่ล้อม ขอพรรับโชคขายบ้านหลังรอนานกว่า 14 ปี เก็บทุนสู้วิกฤติโควิด

สองสามี ภรรยาเข้ากราบขอบคุณสรีระสังขารหลวงพ่อพูลและถวายปัจจัยตามสัญญาผ่านหลวงพี่น้ำฝนเพื่อช่วยในกิจการาธารณะสงเคราะห์กองทุนหลวพ่อพูล โดยเชื่อในปาฏิหาริย์ที่สามารถขายบ้านได้เงินทำทุนหลังประกาศขาย 14 ปี ไม่มีใครสน แต่มาขอพรไม่ถึงเดินได้เงินสู้วิกฤติโควิด-19

วันนี้ 12 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม .พระปฐมเจดีย์ .เมือง .นครปฐม นายเกษม และนางปราณี เกษวิยะการ สองสามีภรรยา ชาวกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางเข้ากราบสรีระสังขาร พระมงคลสิทธิการ(หลวงพ่อพูล อัตตรักโข) อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งบรรจุอยู่ในโลงแก้ว พร้อมนำปัจจัยถวายให้กับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เพื่อให้เข้ากองทุนหลวงพ่อพูล สำหรับการนำไปใช้ในกิจการสาธารณสงเคราะห์และงานด้านอื่นเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจากทั้งคู่ได้รับโชคจากการขอพรในเรื่องการประกาศขายบ้านหลังรอคนมาซื้อถึง 14 ปี

นายเกษม เกษวิยะการ กล่าวว่า ตนเองพร้อมภรรยา ได้เข้ามากราบขอบคุณบารมีของหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาหลังจากได้มาส่งลูกที่มาศึกษาที่โรงพยาบาลศิริราชและได้ขับรถวนเข้ามาที่วัดไผ่ล้อมเพราะดูจากข่าวว่าหลวงพี่น้ำฝน ได้มีการจัดให้คณะสงฆ์ รวมด้วยช่วยกันในการช่วยเผาศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังมีการเปิดให้เจิมหน้าผากและลงนะหน้าทอง เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต ซึ่งเมื่อมาถึงก็ได้เข้ากราบสังขารของหลวงพ่อพูล ซึ่งไม่เน่าเปื่อย โดยได้ขอให้ท่านประทานพรในเรื่องโชคลาภเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องการขายบ้าน 1 หลัง ซึ่งได้พยายามขายมา 14 ปีโดยให้บริษัทเอกชนมาช่วยดำเนินการขายก็ไม่เคยมีใครติดต่อเข้ามาเลย และคิดว่าคงจะขายไม่ได้แล้ว

ผมมกราบหวงพ่อพุล พร้อมภรรยา ก็ได้บอกท่านว่าผมอยากจะขายบ้านได้เพราะเรามีบ้าน 2 หลังอยากจะขาย 1 หลัง ซึ่งอยู่แถวย่าน นวนคร กรุงเทพฯ เราก็ติดป้ายและให้บริษัทที่มีความชำนาญมาทำการประกาศขายให้ 14 ปีแล้วก็ขายไม่ได้ ก็เลยบอกท่านว่า ถ้าผมขายบ้านหลังที่ประกาศขายได้ก็จะนำปัจจัยมาถวายให้หลวงพี่น้ำฝนได้นำไปช่วยกิจการต่างๆที่วัดไผ่ล้อมกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งไม่ถึง 1 เดือนจู่ๆก็มีคนโทรเข้ามาสอบถามแล้วขายบ้านได้อย่างรวดเร็ว ก็เลยมากราบท่านและทำตามสัญญาโดยได้มาพบกับหลวงพี่น้ำฝนแล้วก็เห็นว่าท่านทำงนจริงจัง แม้ปากจะไม่หวานแต่ก็ทำงานจริงจัง ซึ่งผมและครอบครัวเชื่อว่าที่ขายบ้านได้เงินมาก้อนโตเป็นเพราะบารมีของหลวงพ่อพูลแน่นอนนายเกษมกล่าว

ขณะที่บรรยากาศภายในวัดไผ่ล้อม ประชาชนได้เดินทางเข้ามาทำบุญเพื่อเสริมมงคลชีวิตกันอย่างคึกคักมากขึ้นหลังมีการคลายล๊อคดาวน์ในพื้นที่เขตสีแดงเข้มบางส่วน ซึ่งสิ่งที่ประชาชนนิยม คือการมาทำบุญกราบไหว้พระเพื่อขอพรและเข้าพิธีลงนะหน้าทอง จากหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งได้นำตำรับของหลวงพ่อพูลมาทำพิธีให้ภายในวิหารพระพุทธเมตตาประทานพร  เพื่อเสริมดวงชะตาในการประกอบอาชีพ ขอให้รอดพ้นการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และภาวนาขอให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นและกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติสุขโดยเร็วที่สุด