นครปฐม วัดไผ่ล้อมอุปสมบทหมู่ บวชฟรีเกือบทุกเดือน

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 ที่ วัดไผ่ล้อม .เมือง .นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม .เมือง .นครปฐม   เป็นองค์ประธานจัดโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล  โดยกองทุนบวชฟรี จะจัดพิธีอุปสมบทหมู่ทุกเดือน เดือนละครั้ง เป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาสร้างธรรมทายาทไว้ในพระบวรพุทธศาสนาสืบไป โดยในครั้งแรกนั้น จัดขึ้นเมื่อวันที่16 กุมภาพันธ์ 2565 ตรงกับวันมาฆบูชา ครั้งนี้เป็นครั้งที่4

ทางด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า โครงการในวันนี้มีผู้มาสมัครและผ่านเกณฑ์ จำนวน17 คน โดยพร้อมใจอุปสมบท ศึกษาพระธรรม ทั้งที่ระยะนี้จะมีข่าวทำให้ชาวพุทธหดหู่ แต่บุคคลที่มาอุปสมบท ก็เต็มใจเข้ามาบวชในครั้งนี้  ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นมา เพราะอาตมาเห็นว่า เราจะต้องใช้วัดสร้างคนปั้นคนให้เป็นคน ให้ออกมาเป็นคนที่ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้คุณคน จะคิดการสิ่งใดๆ ก็จะต้องมี ....  คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ภายใต้เหตุผล  เป็นคุณธรรมพื้นฐานประจำใจที่ไปอยู่ไหนก็ย่อมเจริญอย่างแน่นอน การเป็นพระ ชีวิตในสมณเพศถือเป็นเครื่องขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยคนได้เป็นอย่างดี ทำให้คนมีวินัย และรู้จักคุณค่าในตนเองอาตมาจึงจัดให้มีโครงการนี้ขึ้น โดยจะจัดเป็นประจำทุกเดือน เดือนละครั้ง ดดยมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญ ที่จะช่วยกันส่งเสริมพระพุทธสาสนาและที่สำคัญ ผู้ที่เข้ามาบวชร่วมโครงการนี้บวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใด ทั้งสิ้น ขอแค่มีเสื้อขาว ผ้าขาวม้า และที่สำคัญที่สุดคือ หัวใจที่พร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลง นั่นแหละมาบวชที่วัดไผ่ล้อมได้แล้ว ขอแค่นั้นจริง

ในส่วนของผู้ที่สมัครเข้ามาบวชยังวัดไผ่ล้อม เมื่อบวชเป็นพระสงฆ์แล้วจะได้ศึกษาพระธรรมคำสั่งสอน ประกอบสังฆกิจ ทั้งทำวัตรเข้า ทำวัตรเย็น รวมถึงช่วยเหลือกิจการต่าง ของวัด เช่น การทำความสะอาดวัด ร่วมกับพระสงฆ์รูปอื่น ในวัด ทำหน้าที่ร่วมกันตามหลักอยู่แบบให้วัดอาศัย มิใช่มาอาศัยวัดอยู่  วัดก็คือกองอิฐกองปูน แต่วัดจะเป็นวัดจริง มิใช่ซากวัดก็ด้วยมีพระที่ดูแลวัดให้เจริญหูเจริญตา เป็นที่ที่ใครเข้ามาก็รู้สึกอิ่มใจ สุขใจพระจึงสำคัญแก่วัด นี่คือหน้าที่ของพระ ดูแลวัด ให้วัดเป็นที่พึ่งพิงทางใจของผู้คน เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐของพุทธศาสนิกชน แต่หากมาเพื่ออาศัยวัดอยู่ก็ควรต้องตั้งคำถามว่าหน้าที่ของพระคืออะไร อยู่กินกับศรัทธาปสาทะญาติโยมหรือ แม้วัดหลายแห่งจะมีรายได้มากจริง แต่ว่ารายได้เหล่านี้มาจากศรัทธาญาติโยมที่เขาตั้งใจฝากไว้ในบวรพุทธศาสนา ให้นำไปเป็นประโยชน์แก่พระซึ่งมีหน้าที่จรรโลงพระพุทธศาสนา บำรุงด้วยปัจจัย 4 ให้ดำรงชีพได้ เป็นหน่อเนื้อพุทธบุตรผู้สืบสานพระพุทธศาสนา แก่วัดอันเป็นศาสนสถานของพุทธศาสนา ขับเคลื่อนกิจการของพระศาสนา หรือนำไปเป็นสาธารณกุศลต่าง ผ่านทางวัด ทั้งหมดนี้คือความปรารถนาของญาติโยมที่เขาถวายเงินมา หรือจบเงินหยอดใส่ตู้ พระสงฆ์จึงต้องมีหน้าที่ทำให้ความปรารถนาของสาธุชนทั้งหลายเป็นจริง และนั่นทำให้เราต้องประพฤติตนให้วัดอาศัย ไม่ใช่อาศัยวัดอยู่

วัดไผ่ล้อมถือนโยบายนี้มาตลอด เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับถวายมา ไม่ว่าจะเป็นก้อนเล็กก้อนน้อยหรือก้อนใหญ่ นั่นคือเงินในพระศาสนา นำมาจัดหาปัจจัยสี่ให้พระสงฆ์ และนำไปเป็นโบสถ์ วิหาร อันสวยสดงดงามถวายเป็นพุทธบูชา พระที่มาบวชยังวัดไผ่ล้อม ก็จะได้รู้ถึงคุณค่าของความเป็นพระ คุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ของญาติโยมที่เลี้ยงดูปัจจัยสี่แก่พระภิกษุสงฆ์

นอกจากนี้ การอยู่ร่วมกันเป็นคณะสงฆ์ เป็นการฝึกการอยู่ร่วมกันในสังคมด้วยความสามัคคี การมาเป็นพระภิกษุสงฆ์คือการเป็นพี่น้องกัน มีพ่อคนเดียวกันคือพระพุทธเจ้าเรามาเป็นพุทธบุตร มาอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน กินอยู่ด้วยกัน รู้จักคุณค่าของความสามัคคี รักษาศีล รักษาสมณสารูป ความสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ ให้สมแก่การเป็นพระสงฆ์ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แม้จะไม่ได้ครองสมณเพศยาวนาน แต่อาตมาก็เชื่อว่า ผ้าเหลืองย่อมขัดเกลาจิตใจได้ อย่างน้อยที่สุดคือความสงบใจ ใส่สบงแล้วทรงพลังจริง นะ อยากรู้ก็มาบวชได้ อาตมายืนยันแน่นอน

เมื่อสึกออกไปเป็นฆราวาสแล้ว อาตมาหวังว่าคนคนนั้นจะกลายเป็นคนใหม่ที่มีคุณภาพของสังคม เป็นคนที่โบราณเรียกว่าคนสุกเป็นทิดคือบัณฑิตผู้รู้ดีรู้ชอบ มีคุณธรรมประจำใจ ได้แก่ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้คุณคน นั่นเอง

ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติของทางวัดไผ่ล้อม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่

หมายเลขโทรศัพท์ 095-782-5656  พระครูสมุห์พงษ์ดนัย หรือLineID:0957825656

หรือหากสาธุชนท่านใดต้องการมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพการอุปสมบท ก็สามารถติดต่อทางวัดได้เช่นกัน ขออนุโมทนา