สภาวัฒนธรรมเมืองประจวบฯ ร่วม P-TECH จัดงาน “เปิดบ้าน Act Thai High Technology 2023” จูนคน 2 วัยสองยุค แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมไทยที่ดีงาม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ก.พ.2566 ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีประจวบคีรีขันธ์ ( P-TECH ) ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ วัฒนธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงาน เปิดบ้าน“Act Thai High Technology 2023 ” โดยมี นายเสทือน ลิบลับ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองประจวบฯ กล่าวรายงาน มี นายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด นายสมชาย ปี่แก้ว นายก อบต.คลองวาฬ นางวรรณา ศรีจุฬางกูล รองนายกเทศมนตรีเมืองประจวบฯ น.ส.ศรีสุลักษณ์ เจิมเจียม ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลคลองวาฬ นายยูซบ โต๊ะวัง ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดประจวบฯ พล.อ.ต.อำนาจ ขวัญเมือง ประธานคณะกรรมการถนนสายวัฒนธรรมสู้ศึก ประธานสภาวัฒนธรรมในแต่ละอำเภอ เครือข่ายสภาวัฒนธรรม คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง ผู้แทนสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภาคตะวันตก ผู้แทนเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดประจวบฯ สสส. ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบฯ(สพป.) เขต 1 ผู้แทนสำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษาฯ (สพม.) เช้าร่วม โดยมี นายสมชาย ทิพย์ประเสริฐสุข ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีประจวบฯ คณาจารย์ และนักศึกษา ให้การต้อนรับ

นางกฤษณา แผ่แสงจันทร์ ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ซึ่งปัจจุบันวิถีชีวิตในสังคมไทย ได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่คนในสังคมเก่าส่วนหนึ่งยังไม่เข้าใจ และตามไม่ทันต่อกระแสการเปลี่ยนแปลง และคนในสังคมใหม่ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ได้มีการใช้เครื่องมือสื่อสาร และอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย จนหลงลืมวิถีชีวิตของความเป็นไทย ที่ขาดหายไป จนเกิดเป็นปัญหาสังคม เช่น การใช้สื่อเทคโนโลยี ปัญหาการติดเกม การติดสื่อสังคมออนไลน์ จนเกิดเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความเจริญเติบโตทางด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และเกิดเป็นปัญหาสังคมในที่สุด ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ หน่วยงานทั้งภาคราชการและภาคประชาชน ควรมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยเชื่อมโยงให้คนในสังคมยุคเก่าและคนยุคใหม่ สามารถดำรงชีวิตร่วมกันได้ หรือมีความรู้เท่าทันการเจริญเติบโตทางเทคโนโลยี บนพื้นฐานของวัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นที่ดีงาม อย่างยั่งยืนถาวรตลอดไป

ทั้งนี้ การที่สภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองประจวบฯ ได้จัดโครงการนี้ขึ้น โดยกำหนดวัตถุประสงค์ ที่จะให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้ สืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามของท้องถิ่น ส่วนผู้ใหญ่คนรุ่นเก่า ก็ได้เรียนรู้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่กำลังก้าวล้ำไปอย่างไม่หยุดยั้ง ถ้าหากสามารถนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของคนสองวัยได้ ก็จะทำให้สังคมเมืองประจวบอยู่กันได้อย่างปลอดภัย และมีความสุข

นายเสทือน ลิบลับ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองฯ กล่าวว่า สภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองฯ ได้จัดตั้งขึ้นมาตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ 2553 มีจุดมุ่งหมายเพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์ หรือฟื้นฟูจารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น และของชาติ และประสานการดำเนินงานวัฒนธรรม ซึ่งภาคประชาสังคมและประชาชนมีส่วนร่วม มีหน้าที่หลักในการส่งเสริม สนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมขององค์กรภาคีและเครือข่ายวัฒนธรรม เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูพัฒนาสร้างสรรค์ แลกเปลี่ยน สืบทอดและเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม

คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอเมือง ได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ความเป็นวิถีชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งเป็นรากฐานทางวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทย ซึ่งปัจจุบันคนรุ่นใหม่มักจะหลงลืมกัน และจะไปนิยมตามกระแสของโลกยุคใหม่ ที่มีความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่งส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงนี้ ก็มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันมิใช่น้อย แต่ก็เกิดปัญหาแก่คนรุ่นเก่า ที่ส่วนใหญ่ไม่สามารถปรับตัวต่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดปัญหาการดำเนินชีวิต ดังนั้น จะทำอย่างไรที่จะให้คนสองยุคมาเรียนรู้ แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันและสามารถใช้ชีวิตบนพื้นฐานวัฒนธรรมไทยที่ดีงาม และรู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีได้อย่างสมดุล และมีความสุข

จากนั้น ประธานในพิธี พร้อมผู้เข้าร่วมงาน ได้เยี่ยมชมกิจกรรมต่างๆของเยาวชนนักศึกษาที่นำผลงานโครงงาน รวมถึงนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ของเยาวชนในอำเภอเมืองมาจัดแสดง รวมถึงการแสดงความสามารถทางดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยของเยาวชน รวมถึงเยี่ยมชมการแข่งขันของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ในแต่ละสถานศึกษาต่างๆที่เข้าร่วมในการแข่งกีฬา อี-สปอร์ต ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อเป็นเวทีส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา ได้แสดงศักยภาพ มีการพัฒนาทักษะ และความสามารถของการทำงานเป็นทีม โดยใช้ทักษะการวางแผน การฝึกซ้อมและการวางกลยุทธ์ ผ่านการแข่งขันเกม ROV

จากนั้นได้ชมการจัดแข่งขันการปรุงอาหารพื้นบ้าน “ลีลา ครัวไทย”ของชาวบ้านแต่ละชุมชนของอำเภอเมือง ที่ส่งทีมเข้าแข่งขันทำอาหารพื้นบ้านจำนวน 8 ทีม ในแต่ละทีมจะต้องรังสรรค์เมนูอาหารมาจำนวน 2 อย่าง เมนูอาหารเป็นเมนูอาหารประจำท้องถิ่นหรือชุมชนของผู้เข้าแข่งขัน หรือผู้เข้าแข่งขันคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยใช้วัตถุดิบของท้องถิ่น ระยะเวลาในการแข่งขัน ต้องทำอาหารให้เสร็จภายในเวลา 2 ชั่วโมง การให้คะแนน จะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยจากผู้เข้าร่วมงาน จำนวน 20 คะแนน และจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 80 คะแนน

สำหรับผลการแข่งขัน ชนะเลิศได้แก่ ทีมรสมือแม่ ซึ่งเป็นชาวบ้านชุมชนบ้านคลองวาฬ กับเมนูฉู่ฉี่ปลาอินทรีย์ และเมนูไก่บ้านต้มขมิ้น รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมชมรมนาฏศิลป์สร้างสรรค์ ชุมชนเทศบาลเมืองฯ กับเมนูไข่ตุ๋นสับปะรด และเมนูน้ำพริกทะเล รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมปลานวลจันทร์ ชาวบ้านชุมชนเทศบาลเมืองฯ กับเมนูปลานวลจันทร์นึ่งซีอิ้ว และเมนูแกงส้มพริกสดปลานวลจันทร์

ด้าน นายสมชาย ทิพย์ประเสริฐสุข ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีประจวบฯ กล่าวว่า วิทยาลัยฯ มีหน้าที่จัดการศึกษา ฝึกอบรมส่งเสริมการประกอบอาชีพของประชาชนให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา และกฎหมายอื่น ๆที่เกี่ยวข้องตามนโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงนโยบายของกระทรวงวัฒนธรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองฯ และวิทยาลัยเทคโนโลยีประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ร่วมกันจัด โครงการเปิดบ้าน  “Act Thai High Technology 2023” โดยมีกิจกรรมที่ให้เกิดการหลอมรวมวิถีชีวิตของคนในชุมชน ท้องถิ่นด้วยพื้นฐานวัฒนธรรมไทยที่ดีงามภายใต้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จุดประสงค์โครงการ เพื่อเชื่อมโยงวิถีชีวิติคนยุคเก่าและยุคใหม่ให้รู้เท่าทันเทคโนโลยีสมัย อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างถูกต้องสร้างสรรค์ นอกจากนี้ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามของชุมชน ท้องถิ่น และเพื่อพัฒนาอาหารพื้นบ้านให้เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเมืองประจวบฯ//////////