จ.สุพรรณบุรี ฟื้นประเพณีหุ่นไล่กา ทำขวัญข้าวโบราณ แปลงนาปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ

วันนี้(24 มี.ค.66) เวลา 10.00 น.ที่แปลงนาปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.บ้านแหลม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งเริ่มดำเนินการปลูกมาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2566นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 พรรคชาติไทยพัฒนา นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.สุพรรณบุรี นายเชษฐา ขาวประเสริฐ นายอำเภอบางปลาม้า พ.ต.อ.มาโนช จันทร์เที่ยง ผกก.สภ.บางปลาม้า นายจตุพร อุ่นวิจิตร ส.อบจ.เขต 3 อ.บางปลาม้า นายปรีชา น้อยอุทัย นายกเทศบาลตำบลบ้านแหลมพัฒนา นางนุชจรินทร์ อุ่นวิจิตร กำนัน ต.บ้านแหลม และชาวบ้าน ร่วมกันจัดงานมหกรรมหุ่นไล่กาบ้านแหลมVS ชาวนาไทย โดยมีการทำขวัญข้าวแบบโบราณ รวมพลหุ่นไล่กากว่า 100 หุ่น พร้อมกินอาหารบ้านสไตล์ปิ่นโต

        นายเชษฐา ขาวประเสริฐ นายอำเภอบางปลาม้า กล่าวว่าโครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ ครบ 3 รอบ 36 พรรษา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในแปลงนาแห่งนี้ เริ่มดำเนินการปลูกมาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2566 ทางอำเภอบางปลาม้า ได้คัดเลือกแปลงเพื่อที่จะทำนาอินทรีย์ เป็นต้นแบบให้ประชาชนเข้ามาเรียนรู้ โดยการประสานงานของ นายจตุพร อุ่นวิจิตร ส.อบจ.ฯและนางนุชจรินทร์ อุ่นวิจิตร กำนัน ต.บ้านแหลม รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ส่วนทางวิชาการในการทำนาครั้งนี้ได้ตัวแทนจากนาเฮียใช้ ซึ่งเป็นเจ้าตำรับของการทำนาอินทรีย์ และเมล็ดพันธุ์ข้าวมาแนะนำ ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ อ.บางปลาม้า ได้มาเรียนรู้ในการทำนาอินทรีย์ร่วมกัน และนำไปบริโภคอย่างมีสุขภาพสะอาดปลอดภัย และยังสามารถเพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้อีกด้วย

          นายเชษฐา กล่าวต่อว่าแปลงนาแห่งนี้เกิดจากความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย และยังได้ความรู้ทางวิชาการจากตัวแทนนาเฮียใช้มาเป็นที่ปรึกษาและรับผิดชอบส่งต่อความรู้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือให้ประชาชนของอำเภอบางปลาม้า ได้ลดการใช้สารเคมีและเพิ่มนวัตกรรมใหม่ภายใต้ แนวคิดให้สุขภาพแข็งแรง รายจ่ายน้อย รายได้สูง ทำง่ายใช้เวลาน้อย เพื่อให้เป็นแปลงนาต้นแบบ หลังจากที่เริ่มปลูกมาตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม2566 เป็นต้นมา ทุกวันที่ 24 ของเดือนจะมีการหิ้วปิ่นโตมากินข้าวร่วมกัน โดยวันนี้ครบ 2 เดือน จึงมีการทำขวัญข้าวร่วมกัน ถือเป็นโอกาสฟื้นฟูประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมอีกด้วย

สำหรับผลผลิตที่ได้ ในแปลงดังกล่าวพื้นที่ 3 ไร่จะได้ผลผลิตประมาณ 3 ตันเศษ แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่วนที่ 2 เก็บไว้เป็นสาธารณประโยชน์ภายในตำบล และส่วน 3 เป็นภาพรวมทั้งอำเภอ โดยการนำข้าวสารไปแจกจ่ายคนด้อยโอกาส คนยากไร้

นายนิทัศน์ เจริญธรรมรักษา ผู้ก่อตั้งนาเฮียใช้ กล่าวว่าโครงการปลูกข้าวเฉลิมพระเกียรติ ได้ตัวแทนนาเฮียใช้ มาเป็นพี่เลี้ยง เพื่อเป็นแปลงเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเกษตรกรกับชุมชน โดยนำเทคโนโลยีในการทำนามาปฏิบัติกับนาแปลงนี้ โดยจะมีแผนในการปลูกว่า จากที่ปลักดำแล้ว จะต้องเตรียมความพร้อมด้านใดบ้าง การบริหารจัดการที่ถูกต้องในการทำนาดำ จะต้องมีอะไรบ้าง เพื่อนำมาซึ่งผลิตที่คุ้มค่ากับชาวนา เมื่อชาวนามาเห็นถึงประโยชน์ในการทำนาดำและทำนาอย่างถูกวิธี จะช่วยทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ และผลิตที่สูงขึ้นและได้ข้าวที่มาบริโภคที่มีคุณภาพให้กับประชาชนที่มาร่วมโครงการนี้