AIS เดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันของคน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ชูภารกิจคนไทยไร้ e-waste ผนึกกำลัง 3 องค์กรชั้นนำ พร้อมชวนคนไทยมีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหา ในวันสิ่งแวดล้อมโลกเดินหน้าสู่การเป็น Hub ด้านองค์ความรู้และจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน

จากปัญหาสภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจนกลายเป็นปัญหาระดับโลกที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทำให้วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก หรือวันที่องค์การสหประชาชาติประกาศจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลกในด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงผลกระทบจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ภาคเอกชนอย่าง AIS ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะโครงการ คนไทยไร้ e-waste ที่มุ่งสร้างปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี ผ่านการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน โดยล่าสุดได้ขยายเครือข่ายการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง เจมาร์ท ในการทำแคมเปญ ทิ้ง e-waste รับ J Point ผ่านแพลตฟอร์มE-Waste + พร้อมร่วมมือกับ LG และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขยายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ ชวนคนไทยร่วมกันทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี เพื่อยกระดับแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน  พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Hub of E-Waste

นางสายชล ทรัพย์มากอุดม รักษาการหัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่าในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล นอกเหนือจากความมุ่งมั่นในการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารอัจฉริยะให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีหลักของประเทศ เรายังวางนโยบายในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันของคนเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม ที่วันนี้เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันอย่างยั่งยืน ผ่านการวางแผนการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานทางเลือกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือแม้แต่การบริหารจัดการขยะ ภายใต้โครงการคนไทยไร้ e-waste

โดยวันนี้การทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ เราตั้งเป้าสู่การเป็น HUB of E-waste หรือศูนย์กลางด้านองค์ความรู้และจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน ตั้งแต่การสร้างองค์ความรู้ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหา สร้างกระบวนการจัดเก็บเพื่อให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแบบ Zero Landfill ตามมาตรฐานสากล ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ที่หลากหลายทั้งภาครัฐและเอกชนมาอย่างต่อเนื่อง

เราถือโอกาสใช้วาระสำคัญอย่างวันสิ่งแวดล้อมโลกประกาศความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่จะมาเป็นหนึ่งใน Green Partnership ที่จะมาขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน ทั้งการทำงานร่วมกับเจมาร์ท ในการทำแคมเปญ ทิ้ง e-waste รับ J Point ผ่านแพลตฟอร์ม E-Waste + พร้อมร่วมมือกับ LG และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขยายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าและผู้ใช้บริการสามารถมาทิ้งได้ โดยเราเชื่อว่าพลังของทุกภาคส่วนจะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์เกิดความยั่งยืนได้ในที่สุด

ทางด้าน เจมาร์ท ในฐานะพาร์ทเนอร์ที่เข้าร่วมโครงการผ่านแพลตฟอร์ม E-Waste + ไปใช้กับลูกค้าที่ให้สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มาทิ้งได้ที่ศูนย์ให้บริการพร้อมรับสิทธิพิเศษจาก J Point ในแคมเปญ ทิ้ง e-waste รับ J Point  นายธีรวัฒน์ จันทร์วิจิตรกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด อธิบายว่านอกเหนือจากการเป็นพาร์ทเนอร์ด้านธุรกิจกับ AIS มากว่า 20ปีในการให้บริการลูกค้าแล้ว เรายังมีแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน ด้วยการจัดแคมเปญทิ้ง e-waste รับ J Point” โดยลูกค้านำขยะ E-Waste อาทิ โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, อุปกรณ์เสริมมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก มาฝากทิ้งที่ร้านเจมาร์ท โมบาย พร้อมรับคะแนน J Point ที่นำไปใช้แทนเงินสดได้ โดยขยะ E-waste 1 ชิ้นจะได้รับ 100 J Point คิดเป็นเงินมูลค่า 10 บาท ซึ่งสามารถนำมาแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการในเครือJaymart พร้อมแลกสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำต่างๆ มากมายที่ร่วมรายการ หรือจะร่วมบริจาคทำบุญให้แก่ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย เพื่อผู้พิการทางสายตา โดยลูกค้าสามารถนำขยะ E-Waste มาฝากทิ้งได้ที่ร้านเจมาร์ท โมบาย ทั้ง 10 สาขา ได้แก่ สาขาเซ็นทรัลรามอินทรา, เซ็นทรัลหัวหมาก, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลอีสวิล, เซ็นทรัลพระราม 9, เซ็นทรัลพระราม 3, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลบางนา 3 และเจมาร์ทสำนักงานใหญ่ เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ เรายินดีที่จะมอบคะแนน J Point เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า สำหรับลูกค้าที่นำขยะ E-Waste มาฝากทิ้งในวันสิ่งแวดล้อมโลกอีกด้วย

นอกจากนี้โครงการ คนไทยไร้ e-wasteยังได้พาร์ทเนอร์ใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มจุดรับทิ้งให้กับลูกค้าและคนไทยอย่าง แอลจี และศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ทางด้าน นายซองฮันจอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าแอลจีให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน โดยเรามุ่งสร้างชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน (Better Life for All) ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ สอดคล้องกับเป้าหมายของแอลจีระดับโลกที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตสินค้าลง 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2017และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งถือเป็นวันสำคัญที่แอลจีทั่วโลกจะเดินหน้าโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แคมเปญหลัก ‘LG Global Volunteer Day’

โดยในปีนี้เราผนึกกำลังกับเอไอเอส ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเปิดจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ศูนย์บริการและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วกรุงเทพ 11 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการ (สำนักงานใหญ่) อาคารริชมอนด์ ซอยสุขุมวิท 26 และร้านค้าแอลจี แผนก Power Mall ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม, ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ รวมถึงร้านค้าแอลจี โฮมโปร สาขาเมกา บางนา, สาขาฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต และสาขาเอกมัยรามอินทรา ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566ทั้งนี้เพื่อเติมเต็มอีโคซิสเต็มการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่สังคมไร้ขยะ E-Waste ได้เร็วยิ่งขึ้น

ในขณะที่ นายสุทธิชัย บัณฑิตวรภูมิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซีแมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวล ลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เสริมว่าทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมโครงการคนไทยไร้ e-waste’ กับเอไอเอส ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่ให้ความสำคัญกับการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธี สอดรับกับพันธกิจหลักของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการรักษาสิ่งแวดล้อม และพัฒนาชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผู้เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์ฯ หรือชุมชน ใกล้เคียง สามารถนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง แบตเตอรี่มือถือ มาทิ้งได้ที่จุดรับขยะภายในศูนย์ฯนอกจากนั้น เรายังได้จัดวางถังแยกขยะประเภทต่างๆ เพื่อให้ผู้มาใช้บริการภายในศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้รับความสะดวก และง่ายต่อการทิ้งขยะอย่างถูกวิธี ซึ่งขยะที่ผ่านการคัดแยกจะเข้าสู่กระบวนการ Recycle และ Upcycle เพื่อส่งเสริมการปฏิบัติตามระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยจัดสรรให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด