กรมราชทัณฑ์พร้อมดูแลผู้ต้องขังให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วอนสังคมให้โอกาสกับผู้ต้องขังที่พ้นโทษ

กรมราชทัณฑ์พร้อมดูแลผู้ต้องขังให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น วอนสังคมให้โอกาสกับผู้ต้องขังที่พ้นโทษ และเพื่อลดปัญหาการผูกคอตายของผู้ต้องขัง โดยเฉพาะครอบครัวต้องพร้อมที่จะพูดคุยในการสร้างความอบอุ่น ในขณะที่ผู้ต้องขังมีความต้องการในการใช้สิทธิลงคะแนนเสียงตั้ง

ที่เรือนจำจังหวัดตรัง พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังในเรือนจำตรัง โดยเดินดูสภาพของแดนต่างๆรวมถึงพบปะพูดคุยกับผู้ต้องขัง ซึ่งในเรือนจำตรัง มีผู้ต้องขังชายหญิง กว่า 2 พันคน ในขณะที่เรือนจำจังหวัดตรังก็ได้จัดงานวันพบญาติแบบใกล้ชิด ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งการให้เรือนจำทั่วประเทศ ปรับปรุงพื้นที่ให้มีความสะอาด ดูแลผู้ต้องขัง ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำมีไม่เพียงพอต่อความดูแลผู้ต้องขัง ทำให้ผู้ต้องขังบางรายถือโอกาสผูกคอตาย เพื่อหนีความผิด ไม่อยากรับโทษภายในเรือนจำ อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือจากประชาชนภายนอกเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษแล้ว ควรให้โอกาสกับผู้ต้องขังที่พ้นโทษ ให้มีงานทำ สร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว อยู่อย่างมีความสุขและไม่หันกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก นอกจากนี้ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่จะให้กำลังใจกับผู้ต้องขัง เพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังคิดมากจนถึงขั้นคิดสั้นผูกคอตาย ดังนั้นการจัดงานพบญาติแบบใกล้ชิดนั้นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะสามารถช่วยให้ผู้ต้องขังผ่อนคลายความเครียดได้ อย่างไรก็ตามต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันในการกระทำผิด โดยเฉพาะผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากมีการปราบปรามอย่างเข้มงวดก็จะทำให้ผู้กระทำผิดลดลง

ทางด้านนายเอ(นามสมมุติ) ผู้ต้องขังชายกล่าวว่าเมื่อกระทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เมื่อเข้ามาอยู่ในเรือนจำแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎ มีความเป็นระเบียบวินัยเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังได้รับการฝึกอาชีพ เมื่อพ้นโทษออกไปก็จะได้มีวิชาความรู้ติดตัวออกไปประกอบอาชีพได้ ในส่วนของใกล้เลือกตั้งนั้นหากมีการเลือกตั้งตนเองก็อยากใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิมีเสียงเท่าเทียมกัน ต้องการแสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตย เพียงแต่ตนเองต้องอยู่ภายในเรือนจำ และนางบี(นามสมมุติ) ผู้ต้องขังหญิง กล่าวว่ามาอยู่ที่เรือนจำจังหวัดตรัง ก็มีความเป็นระเบียบวินัยมากขึ้น และไม่คิดที่จะกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก ส่วนการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็อยากที่จะใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาตนเองออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง จึงขอวอนว่าหากมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งขอให้ผู้ต้องขังได้ใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งด้วย