ท็อป วราวุธเปิดพรรคชาติไทยฉลองวันคล้ายวันเกิด ที่สาขาพรรคชาติไทยพัฒนา จ.สุพรรณบุรี

ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา รมว.กระทรงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดที่ทำการพรรคฯ ฉลองวันคล้ายวันเกิดโดยมีสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนามากันพร้อมหน้า อาทิ นายประภัทร โพธสุธน รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี เขต 1 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี เขต 2 นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส.สุพรรณบุรี เขต 4 และนายนพดล มารตรศรี สส.ระบบบัญชีรายชื่อ และข้าราชการชั้นใหญ่ในกระทรวงทรัพยากรฯ รวมทั้งข้าราชการประชาชนในสุพรรณบุรีมาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดอย่างอบอุ่น
โดยนายวราวรุธ กล่าวว่า ตั้งแต่เล็กจนโตผมเคยยืนอยู่ข้างหลังบุคลคลที่ชื่อว่า  นายบรรหาร ศิลปอาชา  เหมือนลูกๆของผมยืนอย่างนี้ตลอดชีวิต ไม่เคยคิดฝันว่าสักวันหนึ่งจะมาจัดงานวันเกิด และได้รับเกียรติจากทุกๆท่าน  เหมือนที่พ่อบรรหารเคยได้รับเกียรติแบบนี้ สำหรับพี่น้องชาวสุพรรณบุรีแล้วผมก็ยังเป็นลูกท๊อป หลานท๊อป น้องท๊อปของพวกเราเหมือนเดิม ตำแหน่งทั้งหลายที่ ผมเดินหาเสียงตามพ่อบรรหารมาตั้งแต่ 3 ขวบ จนกระทั้งจุดสูงสุดในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทยได้เห็นผ่านร้อนผ่านหนาว ได้เห็นการทำงานของพ่อบรรหารมากมาย วันนี้ถึงเวลาที่ศิลปอาชารุ่นสองจะต้องมาทำงานให้กับพี่น้องและคนไทยทั้งประเทศ ต้องขออนุญาตกราบเรียนท่านผู้บริหารและข้าราชการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีข่าวมากมายพรรคนั้นจะเอากระทรวงนั้นพรรคนี้จะเอากระทรวงนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งแวดล้อมบางคนไม่มีใครพูดถึง ขอความกรุณาอย่านึกว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้รับการเหลียวแลหรือไม่ได้อะไรแล้วมาคว้าเอากระทรวงนี้ ผมเองและท่านหัวหน้าพรรคท่านกาญจนา  ศิลปอาชา เรามองตั้งแต่แรกแล้วว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เป็นกระทรวงที่สำคัญที่สุดเป็นกระทรวงที่พูดถึงในอนาคตเป็นกระทรวงที่ไมได้ทำงานให้กับคนไทยในวันนี้ แต่ทุกๆคนที่ทำงานในวันนี้ ผมกำลังทำงานให้กับลูกๆของผม ผมกำลังทำงานให้กับอนาคตของประเทศไทย ผมกำลังทำงานให้กับหลานๆผมให้กับคนไทยอีก20ปี 30ปี
จากนี้ ตัวผมเองที่ได้ร่ำเรียนมาสิ่งที่ได้ประสิทธิประสาทวิชามาด้วยหนึ่งสมองกับสองมือที่พ่อบรรหารและแม่แจ่มใส  ให้มานั้นผมขอปาวนาตัวว่า ทุกๆวินาที่ที่ผมดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทุกๆนาที่ที่ผมมีกำลัง ทุกๆนาทีที่ยังลืมตาอยู่นั้นผมจะอุทิศทั้งแรงกายแรงใจและทรัพย์สินทุกอย่างที่ตัวเองมีเพื่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเพื่อลูกหลานของพวกเรา ขอให้พวกเราทุกคนนั้นมั่นใจ  การทำงานไม่ว่าทางการเมืองและฝ่ายราชการนั้น ผมได้เห็นการทำงานของพ่อบรรหาร ทำงานมากระทรวงแล้วกระทรวงเล่าและการทำงานของพ่อบรรหารนั้นจะอยู่ในตัวผมตลอดไปเราจะต้องทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อแผ่นดินแห่งนี้ต่อไปอีกนานเท่านาน”