วัดเขาพระทอง ร่วมกับสมาคมสมาพันธ์นักข่าว (ประเทศไทย) จัดสร้าง “หลวงพ่อเกศแหลม” เพื่อรายได้สร้างโบสถ์วัดเขาพระทองและช่วยเหลือองค์กรสื่อและอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราช

วัดเขาพระทอง ร่วมกับสมาคมสมาพันธ์นักข่าว (ประเทศไทย) จัดสร้าง “หลวงพ่อเกศแหลม” เพื่อรายได้สร้างโบสถ์วัดเขาพระทองและช่วยเหลือองค์กรสื่อและอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราช




เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2563 ณ ลานวัดเขาพระทอง ต.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มีการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปโบราณ “พระพุทธสุวรรณวรศรีวิชัย หรือ “หลวงพ่อเกศแหลม” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณอายุกว่า 500 ปีที่ชาวบ้านขุดพบในถ้ำเขาพระทอง เมื่อ 60 ปีก่อน แต่ไม่สามารถครอบครองได้จึงมอบให้นายวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ (โกหว่า) คหบดีเศรษฐีใจบุญครอบครองแทน ล่าสุดนายวรศักดิ์ มีโครงการจัดหาทุนสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง จึงร่วมกับสมาคมสมาพันธ์นักข่าว(ประเทศไทย) สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และชมรมรักษ์เพชรสงค์ จัดสร้างพระพุทธรูป พระเครื่อง เพื่อหาทุนสร้างโบสถ์ โดยมอบพระพุทธรูปโบราณองค์ดังกล่าวมาเป็นต้นแบบจัดสร้างองค์จำลองเป็นพระพุทธรูปองค์บูชา และพระเครื่อง โดยมีพระราชปริยัติเวที เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าอาวาสวัดมุมป้อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

โดยมีพระอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง นางลัลน์ลลิตฤดี วิเศษศิริ นายกสมาคมสมาพันธ์นักข่าว(ประเทศไทย) นายเดชฤทธิ์ บุญสุภา ที่ปรึกษาสมาคมสมาพันธ์นักข่าว(ประเทศไทย)
นายพิจักษณ์ เพชรสงค์ หรือ “เอี้ยง ปู่ยีนส์” ประธานชมรมรักษ์เพชรสงค์ เซียนพระชื่อดัง อาจารย์อภิชัย การิกาญจน์ ศิลปินจิตกรระดับประเทศ อาจารย์กิตติชัย ตรีรัตน์วิชชา ศิลปิน“นักปั้น” ชื่อดังแห่ง“เมืองโคราช” พ.ต.ท.อาคม จอนนุ้ย สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักกันในนาม นายหนังตะลุงอาคม ตะลุงสากล นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช และนักธุรกิจ พ่อค้าประชาชนร่วมในพิธี

สำหรับการจัดสร้างหลวงพ่อเกศแหลม เริ่มด้วยพิธีพราหมณ์บวงสรวงบอกกล่าวเทพยดา ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยคณะ”พราหมณ์เล็ก เขาเหมน” ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาเล็กน้อย แต่ห่างจากวัดเขาพระทองไปประมาณ 200 เมตรกลับมีฝนตกหนัก ลมพัดกรรโชกแรง ท้องฟ้ามืดครึ้มเกือบทุกอำเภอของจังหวัดนครศรีธรรมราชและกระบี่ แต่ในส่วนของการประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปวัดเขาพระทองสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก หลังพิธีพราหมณ์ได้เกิดลมพัดกรรโชกภายในวัดเขาพระทองอย่างรุนแรง จนแผ่นป้ายไวนิลขนาดใหญ่ด้านหน้าพิธีฉีกขาดหล่นลงมากองกับพื้น เต้นท์ปะรำพิธีและต้นประดู่สั่นไหวอย่างหนัก ในขณะที่ไฟฟ้าดับในพื้นที่ อ.ชะอวด อ.จุฬาภรณ์ จนหลายฝ่ายเกรงว่า จะไม่สามารถประกอบพิธีต่อไปได้ โดยเฉพาะประธานในพิธีและผู้เกี่ยวข้องนำแผ่นโลหะที่พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศเมตตาร่วมอธิฐานจิตจารอักขระเลขยันต์ในแผ่นโลหะและชนวนมวลสาร อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดยานนาวา ,สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย )วัดไตรมิตรวิทยาราม ,หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร, พระครูอาภัสร์ธรรมคุณ หรือ“หลวงปู่บุญรอด”สุดยอดเกจิดังภาคอีสาน ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต วัดแสงแก้วโพธิญาณและพระเกจิดังทั่วประเทศอีกหลายรูป นับเป็นประวัติศาสตร์การจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งในเมืองไทย และสามารถนำแผ่นโลหะ ชนวนมวลสารทั้งหมดใส่หล่อหลอมรวมกันได้ตามฤกษ์เวลาที่กำหนด คือ 13.39 น. แต่ไม่สามารถประกอบพิธีเททองหล่อองค์พระ เนื่องจากความร้อนหรืออุณหภูมิต่ำกว่าที่กำหนดทองเนื้อสัมฤทธ์ (สำริด) จะต้องมีอุณหภูมิความร้อนไม่น้อยกว่า 1,300 องศา หากความร้อนไม่ถึง 1,300 องศา น้ำทองในเบ้าจะหนืดไหลไม่สมำเสมอทำให้องค์พระมีตำหนิไม่สวย ไม่ได้คุณภาพที่ต้องการ จึงต้องใช้เวลาและสุ่มไฟเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้น จนกระทั้งเวลา 16.49 น. จึงสามารถเททองหล่อองค์พระได้อย่างไม่มีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ เพียงแค่จะล่าช้าออกไปประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น

นายไพฑูรย์ อินทศิลา กล่าวว่า ไม่น่าเชื่อว่าพิธีเททองพระพุทธรูปโบราณจะผ่านพ้นมาได้ทั้งๆที่เกิดพายุฝนทั่วทั้งจังหวัดอย่างรุนแรง แต่ภายในวัดเขาพระทองตลอดทั้งวันฝนกลับตกเล็กน้อย แต่ก็มีลมพัดกรรโชกรุนแรงมากและไฟฟ้าดับทั้งอำเภอจนพิธีเททองต้องล่าล้าออกไปกว่า 2 ชม. ตนเชื่อว่าหลวงพ่อองค์ใหญ่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเขาพระทองได้แสดงอภินิหารและกำหนดฤกษ์เวลาการเททองหลอมหล่อองค์พระพุทธรูปในเวลา 16.39 น.ไม่ใช่ตามที่กำหนดเดิมใน 13.39 น. โดยพระพุทธรูป พระเครื่องรุ่นนี้เทพยดา ฟ้าดิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดเขาพระทองรับรู้รับทราบถึงเจตนาของการจัดสร้างเป็นอย่างดีทางเบื้องบนจึงเป็นผู้กำหนดฤกษ์เวลาที่ถูกต้องเหมาะสม เพราะเมื่อถึงช่วงเวลาที่เบื้องบนกำหนดทุกอย่างดำเนินการผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาและอุปสรรคใด ๆ จึงควรจะตั้งชื่อพระเครื่องหรือวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า “รุ่นฟ้าสั่ง” หรือ “รุ่นฟ้าลิขิต” น่าจะเหมาะสม

ทางด้านพระอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง กล่าวว่า ปัจจุบันวัดเขาพระทองยังไม่มีโบสถ์ และได้รับความเมตตา
จากนายวรศักดิ์ อดิเทพวรพันธ์ คหบดีใจบุญ สมาคมนักข่าวหลายสมาคม อาทิ มูลนิธิช่างภาพสื่อมวลชน สมาคมช่างภาพสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย สมาคมผุ้สื่อข่าวค้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย)
เข้ามาช่วยเหลือในการจัดสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองและพระประธานในโบสถ์ สำหรับพระประธานในโบสถ์ที่จะจัดสร้างนั้น จะจำลองพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่มีคนขุดพบเมื่อ 60 ปีก่อน มาสร้างจำลองเป็นพระประธานในโบสถ์ พร้อมสร้างเป็นพระพุทธรูปบูชาขนาด 3,5,7,9 นิ้ว และพระเครื่องแบบลอยองค์และเหรียญสำหรับห้อยคอหรือพกพาติดตัว หลังจากพิธีเททองหล่อองค์พระ ทางวัดจะเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศร่วมกันทำบุญสมทบทุนสร้างโบสถ์และพระประธานในโบสถ์ โดยการสั่งจองพระบูชา พระเครื่องรุ่นนี้ผ่านทางธนาคารออมสิน ซึ่งจะแจ้งให้ทราบทางสื่อสารมวลชนอย่างเป็นทางการ ส่วนกำหนดพิธีพุทธา-เทวาภิเษกจะมีในวันที่ 13 ก.ย. 2563

สำหรับรายได้จากการสร้างพระพุทธรูป “พระพุทธสุวรรณวรศรีวิชัย หรือ “หลวงพ่อเกศแหลม” และพระเครื่องอื่น ๆ อีก 2-3 รายการ ในโครงการนี้นั้นจะมอบให้วัดเขาพระทองสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง มอบช่วยเหลือองค์กรสื่อมวลชนทั่วประเทศและสมทบทุนก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช