กองบิน 5 ประจวบฯแถลงจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ระหว่าง 7-12 ธ.ค.แบบนิวนอร์มอล

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 12 พ.ย.2563 ที่ห้องปะการัง อาคารฟ้าชมคลื่น ริมชายหาดอ่าวมะนาว ภายในกองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ น.อ.พรประเสริฐ ผ่านภพ ผู้บังคับการกองบิน 5 เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงานสดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2563 โดยกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคม 2563 รวม 6 วัน ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 โดยมี นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางกัญญา มโนเสงี่ยม รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานประจวบฯ ว่าที่ ร.ต.ธีรยุทธ ธีระโสพิศ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.ประจวบฯ ร่วมในการแถลงข่าว และมี น.อ.สุวิทย์ สงขาว รองผู้บังคับการกองบิน 5 น.อ.สามารถ ว่องทรงเจริญ เสนาธิการกองบิน 5  ตลอดจนสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.ประจวบฯ เข้าร่วม

น.อ.พรประเสริฐ ผ่านภพ ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน ก็เพื่อสดุดีวีรกรรมของเหล่าวีรชนทหารอากาศ ที่เสียสละชีวิตปกป้องเอกราชอธิปไตยจากผู้รุกราน ด้วยความกล้าหาญในคราวสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484 ซึ่งสมควรที่จะได้รับการยกย่องสรรเสริญและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชนทุกสาขาให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง โดยในวันที่ 7 ธ.ค. จะมีการเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชน ไปตามถนนเส้นทางหลักในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ตั้งแต่บริเวณศาลหลักเมือง จนถึงอนุสาวรีย์วีรชนฯ โดยมี รองผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้แทนกองทัพอากาศ ร่วมเป็นประธานกับผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯหรือผู้แทน ในพิธีเปิดงานสดุดีวีรชนฯ หลังจากนั้น จะเป็นงานเลี้ยงรับรองวีรชนพร้อมญาติวีรชน

ในวันที่ 8 ธ.ค. จะเป็นการวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนฯ โดยมี ผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นประธานในพิธี และร่วมงานบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน ในส่วนของกิจกรรมกลางคืน จะเป็นการประกวดร้องเพลง ร่วมกับ การแสดงดนตรีของวงดุริยางค์ทหารอากาศ และวงดุริยางค์ของกองบิน 5 อีกทั้งยังมี ช้างมินิคอนเสิร์ต จากเครื่องดื่มตราช้าง ในวันที่ 9 ธ.ค. ช่วงเช้าเป็นกิจกรรมปลูกฝังความรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้กับเยาวชน  ในวันที่ 10-12 ธ.ค. ช่วงเช้าเป็นกิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก การประกวดไก่แจ้ขัน การแข่งขันฟุตบอลล้อมหมวกคัพ การแข่งขันเปตอง กิจกรรมกลางคืน เป็น Music On The Beach บริเวณสวนโลมา ชายหาดอ่าวมะนาว

ผู้การกองบิน 5 ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับปีนี้ การจัดงานได้คำนึงถึงสถานการณ์โควิด-19 โดยเป็นการจัดงานแบบ New- Normal โดยมาตรการของแต่ละกิจกรรมจะเป็นไปตามระดับความเสี่ยงของกิจกรรมนั้น ๆ แบ่งเป็น 4 ระดับได้แก่ กิจกรรมกลุ่มที่ 1 ความเสี่ยงต่ำมาก สีขาว ได้แก่ การออกร้านขายของ กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก กิจกรรมเดินเทิดเกียรติ วางพวงมาลา และบำเพ็ญกุศล มาตรการได้แก่ การคัดกรองผู้ร่วมกิจกรรมโดยบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลกองบิน โดยผู้ผ่านการคัดกรองจะมีการติดสัญลักษณ์ และสำหรับผู้ที่คัดกรองไม่ผ่านจะงดให้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และจัดจุดบริการเจลล้างมือทั่วบริเวณการจัดงาน

กิจกรรมกลุ่มที่ 2 ความเสี่ยงต่ำ สีเขียว ได้แก่ การจัดงานเลี้ยง และนิทรรศการ มาตรการโดยทั่วไปจะเหมือนกับกลุ่มสีขาว แต่จะเพิ่มเติมในการจัดการพื้นที่ไม่ให้แออัด อากาศถ่ายเทสะดวก การทำความสะอาดสม่ำเสมอ และจัดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึง  กิจกรรมกลุ่มที่ 3 ความเสี่ยงปานกลาง สีเหลือง ได้แก่ การแข่งขันกีฬาฟุตบอล สำหรับมาตรการจะเหมือนกับกลุ่มเสี่ยงต่ำ แต่เพิ่มความเข้มงวดยิ่งขึ้น  กิจกรรมกลุ่มสุดท้าย ความเสี่ยงสูง สีแดง ได้แก่ คอนเสิร์ต กิจกรรมการแสดงบนเวที และลานจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหาร จะดำเนินมาตรการที่เข้มข้น ได้แก่การคัดกรองผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน ผู้จำหน่ายอาหารรวมทั้งนักแสดง จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือ Face Shield ตลอดเวลา มีจุดสแกนไทยชนะ และมีสัญลักษณ์ และการประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่มุ่งให้เกิดการมีส่วนร่วมในกลุ่มเยาวชนและประชาชนทั่วไป คือการประกวดการเขียนเรียงความระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1-3 ในหัวข้อ ในหลวงของปวงชนชาวไทย” และการประกวดภาพถ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว หัวข้อ Good Health Good View At Ao Manao ชิงเงินรางวัล และโล่เกียรติยศ จาก ผู้บัญชาการทหารอากาศ

ด้าน นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กล่าวในฐานะตัวแทนชาวจังหวัดประจวบฯ ว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนในการจัดงาน สดุดีวีรชนฯ ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองบิน 5 เพื่อเป็นการรำลึก สดุดีวีรกรรมความกล้าหาญของเหล่าวีรชนทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวชน ตำรวจ และชาวประจวบฯ ที่ได้ยอมสละ เลือด เนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยเมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียบูรพา และเพื่อเป็นการปลูกฝังความรัก เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้พี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติได้มีส่วนทราบเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา  เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในห้วงปี พ.ศ.2484 ตรงกับสงครามโลก ครั้งที่ 2 ที่ก่อตัวขึ้นมา ณ ผืนแผ่นดินไทย โดยกองทัพญี่ปุ่นได้นำกำลังพลขึ้นบริเวณชายฝั่งทะเลตอนใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี ส่วนทางบกยกพลขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า และมลายู

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกัน ระหว่างทหารอากาศแห่งกองบินน้อยที่ 5 และพี่น้องประชาชนจังหวัดประจวบฯ ที่ได้ร่วมกันต่อสู้กับกองกำลังแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ได้นำกำลังพลขึ้นบก ณ อ่าวประจวบ, อ่าวมะนาว และมีการสู้รบกันเป็นเวลา 33 ชม. จึงสงบ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งต้องนำมาเป็นข้อคิดให้กับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันไทยและญี่ปุ่น ได้สานสัมพันธ์และมีสัมพันธไมตรีต่อกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความรัก ความเป็นมิตร