นครปฐม กรมวังผู้ใหญ่ เปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลนครปฐม โมเดลจัดแยกการตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป

กรมวังผู้ใหญ่ เปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลนครปฐม โมเดลจัดแยกการตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมสนับสนุนส่งเสริมการจัดการที่เกิดประโยชน์ลดความเครียดสร้างความสะดวกในการรับการตรวจรักษาอย่างไม่กดดัน

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข อาคารรวมเมฆ โรงพยาบาลนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล...สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิดหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุขโรงพยาบาลนครปฐม โดยมี นายสุรศักดิ์  เจริญสิริโชค ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม  นายนายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเรือนจำกลางนครปฐม  แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลนครปฐม และศิษยานุศิษย์วัดไผ่ล้อม  ร่วมพิธี

สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลนครปฐม เป็นการดำเนินการโครงการต้นแบบในการจัดทำหอผู้ป่วยสำหรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะโดยจะเป็นการจัดไว้สำหรับแยกออกจากห้องรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่มารับการตรวจและรักษาตัวภายในโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งจะมีแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ประจำอยู่ในหอผู้ป่วยดังกล่าว  และจะมีเตียงสำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาเบ็ดเสร็จ  ทำให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ที่มารับการตรวจรักษาทั้งสองส่วนแบบแยกออกจากกันโดยชัดเจน

ทางด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข ถือว่าเป็นหอผู้ป่วยแห่งแรกที่ทางอาตมาและศิษยานุศิษย์ของวัดไผ่ล้อมได้ร่วมมือกับเรือนจำกลางนครปฐม ในการจัดสร้างขึ้นที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยเป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ วัด และภาคประชาชน ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่าเดิมทีที่อาตมาเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลนครปฐม ครั้งหนึ่งได้เห็นมีรถของกรมราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาที่ ซึ่งก็มีภาพที่น่าหดหู่ใจเนื่องจากต้องมีการสวมกุญแจมือและบางรายที่ก่อโทษหนักก็จะถูกใส่โซ่ตรวนล่ามขามาด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ต้องขังเกิดความอาย วิตกและเกิดความเครียดทั้ง ๆที่ป่วยและยังขาดอิสรภาพ ขณะที่ประชาชนที่มารับการรักษาก็เกิดความไม่สบายใจเมื่อต้องมาอยู่ในช่วงของการรอรับการตรวจรักษา จึงเป็นที่มาที่อยากจะทำให้เกิดความสะดวกและแยกสัดส่วนที่ชัดเจนขึ้น

อาตมาเห็นว่าการต้องจัดทำหอผู้ป่วยแบบแยกออกจากกัน จะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสะดวกในการรับการตรวจรักษา  เพราะประชาชนที่ป่วยก็มาเกิดความกลัว ส่วนผู้ต้องโทษก็เครียดไปด้วย อาตมาจึงได้มาหารือกับศิษยานุศิษย์ กองทัพบุญของวัดไผ่ล้อม ซึ่งก็ได้เห็นตรงกันว่าควรที่จะมีหอผู้ป่วยที่ยากจากกัน จึงได้นำไปสู่การหารือกับเรือนจำกลางนครปฐมและกรมราชทัณฑ์ และเกิดเป็นหอผู้ป่วยต้นแบบ ที่โรงพยาบาลนครปฐมซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับสังคมอีกหนึ่งรูปแบบด้วยหลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย