ตํารวจไซเบอร์รวบหนุ่มแสบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นพนักงาน FedEx ทําหน้าที่เป็นสายหลอกผู้เสียหาย คุณมีพัสดุผิดกฎหมายตกค้างที่กรมศุลกากร พบความเสียหายกว่า 42 ล้านบาท

ตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสํานักงาน ตํารวจแห่งชาติ โดย พล...ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล...ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยการหลอกลวงประชาชนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นการกระทําที่ ซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน

กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โดยพล...วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ให้ความสําคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ได้กําชับสั่งการให้ทุกกองบังคับการในสังกัด เร่งดําเนินการปราบปรามจับกุม ผู้กระทําผิดมาดําเนินคดีตามกฎหมายโดยใหม้ีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง

วันนี้ (5 พฤษภาคม 2566) เวลา 10.00 . พล...วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล...วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช. สอท., พล...อํานาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล...นิเวศน์ อาภาวศิน รอง ผบช.สอท., พล...ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สอท., พล...ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. , ผบก.สอท.1 , ...กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. , พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตํารวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีเปิดปฏิบัติการ ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีพฤติการณ์การกระทําผิด และผลการปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

สืบเนื่องมาจากได้มีผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงว่าเป็นพนักงานบริษัทขนส่ง FedEx มีพัสดุผิด กฎหมายส่งจากต่างประเทศติดที่กรมศุลาการไดร้ ะบุชื่อที่พัสดุเป็นชื่อนามสกุลผู้เสียหาย มีความเกี่ยวข้องกับการกระทําผิดฐานฟอกเงิน จึงหลงเชื่อโอนเงินไปจํานวนกว่า 42 ล้านบาท ภายหลังทราบว่าถูกหลอกลวงจึงได้ดําเนินการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับ แจ้งความออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่ตํารวจสืบสวนหาตัวผู้กระทําผิดมาดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจสังกัดบก.สอท.1 จึงได้ทํา การสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน หาความเชื่อมโยงทางคดี กระทั่งเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 พนักงานสอบสวนได้ยื่นคําร้องขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 14.30. เจ้าหน้าที่ตํารวจสังกัดบก.สอท.1 ได้จับกุมตัว นายสุรเกียรติ ขอสงวนนามสกุล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2297/2565 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันเป็นอั้งยี่,ร่วมกันเป็นซ่องโจร,ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกัน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงินที่ตําบลศาลากลาง อําเภอบาง กรวย จังหวัดนนทบุรีจากการสอบปากคําผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การอีกว่าผู้ต้องหาได้หางานผ่านเฟสบุ๊ค พบว่ามีรับสมัครงานเป็นแอดมินเว็บพนัน จึงได้ติดต่อขอทํางานไป และได้เดินทางไปทํางานที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา เมื่อไปถึงพบว่า เป็นอ๊อฟฟิตแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเฉพาะ มีนายทุนเป็นคนจีน ผู้ต้องหาจึงตกลงทํางานด้วยโดยทําหน้าที่หลอกลวงเป็นสายที่ 1 พนักงาน FedEx มีสคริป(บท)ให้ท่องหลอกลวงว่าคุณมีพัสดุตกค้างของขนส่ง FedEx มีหมายเลขพัสดุหรือไม่ ถ้าไม่มีให้แจ้งชื่อนามสกุลเมื่อ ผู้เสียหายหลงเชื่อแจ้งชื่อนามสกุลแล้ว พนักงานจะตรวจสอบสักครู่หนึ่ง เมื่อตรวจสอบเสร็จจะแจ้งว่าพบพัสดุผิดกฎหมายถูกกรม ศุลกากรอายัดไว้โดยส่งมาในชื่อนามสกุลคุณ ต่อมาจะถามผู้เสียหายว่าเป็นคนส่งหรือไม่ ถ้าตอบ ไม่ ให้ถามต่อว่าทําไมมีชื่อคุณเป็นคน ส่ง ถ้าตอบ ไม่ทราบ ให้แจ้งผู้เสียหายว่ามีการแอบอ้างในการใช้ชื่อคุณมาส่งพัสดุ ให้ผู้เสียหายเดินทางมาที่สาขา FedEx สะดวก หรือไม่ ถ้าไม่สะดวกให้ติดต่อไปที่สถานีตํารวจ จะช่วยประสานงานให้จากนั้นเมื่อเหยื่อหลงเชื่อ จะกดต่อสายส่งไปที่สคริปคนต่อไป สายที่ 2-3 จนถึงขั้นตอนที่ผู้เสียหายโอนเงิน โดยทํางาน08.00-16.00. ได้เงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท ถ้าทํายอดได้สูงจะได้เดือน ละ30,000 บาท และมีโบนัสอีก 0.1% จากยอดเงินที่หลอกได้ ผู้ต้องหาทํามา 5 เดือนเศษก็กลับบ้านเพราะเก็บเงินได้จํานวนหนึ่งแล้ว

ฝากไปยังประชาชนให้พึงระวังการหลอกลวงลักษณะดังกล่าว ต้องรู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ ควรมีสติก่อนการโอนเงินทุกครั้ง ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ ควรตรวจสอบให้ดีก่อนไม่เชื่อ ไม่รีบ ไม่โอนทั้งนี้ การปฏิบัติการของ บช.สอท. ยังคง มุ่งเน้นที่จะสนองนโยบายของรัฐบาล และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เร่งดําเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทําความผิดอย่างจริงจัง และ ต่อเนื่อง มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม คํานึงถึงความเดือดร้อน และอํานวยความยุติธรรมของประชาชนเป็นสําคัญ