สุพรรณบุรี เตรียมพร้อมวิ่งธงโอลิมปิก กรุงเทพฯ -โตเกียว กิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ”

บ่ายวันนี้(5เม.ย.64)ห้องประชุม สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุพรรณบุรี นานชูชีพ พงษ์ไชย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ”

ตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน กำหนดจัดกิจกรรม”วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ” ในระหว่างวันที่ ๒๔ มีนาคม ถึงวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นการวิ่งระยะไกลผ่านกรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีกิจกรรมวิ่งธงฯ ผ่านพื้นที่ ๓๔ จังหวัดทั่วภูมิภาค รวมระยะทาง 4,606   กิโลเมตร โดยเชิญชวนประชาชน ศิลปิน ดารา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานราชการ เอกชน และผู้ที่  ได้มีส่วนร่วมในการวิ่งส่งต่อธงชาติไทย คนละ ๑ กิโลเมตร จำนวน ๔,๕๖๘ คน  สำหรับจังหวัดสุพรรณบุรี จะรับธงจากจังหวัดกาญจนบุรีในวันที่ 24 เมษายน 2564 เวลา ประมาณ 12.00 น. ที่พนมทวน ตลาดเขต จากนั้นจะวิ่งผ่านอำเภออู่ทอง และเข้าสู่สนามกีฬากลาง

จากนั้นในช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 -18.00 น.จะเป็นการวิ่ง Fun run รอบเมืองสุพรรณบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัด และนักวิ่งภาคประชาชนที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม 1,000  คน เส้นทาง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เริ่มจากสนามกีฬากลางผ่านสภาเกษตรกรจังหวัด-โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัย-ปตท.หลักเมืองมั่นคงสุพรรณบุรี-วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร- มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสุพรรณบุรี กลับเข้าสู่เส้นชัยที่สนามกีฬากลางโดยการวิ่งจะเป็นการวิ่งแบบขบวนพาเหรด  ส่วนกองเชียร์ ขณะที่ผู้ร่วมงาน/จิตอาสา ขอให้สวมเสื้อเมืองดนตรี เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเมืองดนตรี ควบคู่กับเมืองกีฬา   สำหรับการวิ่ง Fun run มีเพียง 5 จังหวัดคือ จังหวัดสงขลา /สุพรรณบุรี/เชียงใหม่/ขอนแก่น และระยอง

ส่วนวันที่ 25 เมษายน 2564 จะเริ่มปล่อยขบวนจากสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี – สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาท จังหวัดชัยนาท ในเวลา 05.00 น.โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นประธานในพิธี  ซึ่งมีนักวิ่งชุดที่ 1.อำเภอเมือง  2.สถานีบริการน้ำมันพีที ศรีประจันต์ 3.สถานีบริการน้ำมันพีที สามชุก 4.โรงเรียนวัดท่าเตียน อำเภอเดิมบางนางบวช 5.สถานีบริการน้ำมันพีที สรรคบุรี @สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาท จังหวัดชัยนาท

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าว ทางจังหวัด เตรียมพร้อมการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID 19) อย่างเคร่งครัด