เมื่อเวลา 14.04 วันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ห้อง ศอ.ปส.ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอก ปรีดา อิ่มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจเอกพงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก พันตำรวจเอก เมธี สงวนสัตย์ ผู้กำกับ(สืบสวน) ช่วยราชการกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พันตำรวจโท บัณฑิต คณาลัยวุฒิพงษ์ รองผู้กำกับ(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก พันตำรวจโทภาณุทัต เหลืองสัจจกุล รองผู้กำกับป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก พันตำรวจโท พชรชัย ปาณะดิษ รองผู้กำกับสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก พร้อมชุดสืบสวน
ร่วมกันรับการมอบตัว นายพัทธ์ อายุ 33 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลหนองปรงอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี ผู้ต้องหา “พกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 15 เมษายนเวลาประมาณ 12.40 น ได้มีผู้โพสต์ ในโซเชียลกลุ่มข่าวสารนครปฐม ผู้โพสชื่อ แม่น้ำฐิติวรดา โพสต์ว่า”ฝากเตือนภัยด้วยค่ะ เหตุเกิดในปั๊ม ปตท.ธรรมศาลา(นครปฐม)เกิดจากรถแฟนเราชนในปั๊มตรงกับที่เติมลมเลยจอดรถไว้ ณ จุดเกิดเหตุและรอประกันมาโดยยังไม่ได้ขยับรถออกซึ่งขณะนั้นมีชายไม่รู้จักจะเข้ามาเติมลมโดยที่เรายังไม่ทันได้สังเกตเขาเข้ามาด่าและใช้ปืนขู่ทั้งๆที่เราอุ้มลูกเล็ก 2 คนอยู่กับพี่สาวอีกหนึ่งคน ทำไมถึงกล้าเอาปืนออกมาขู่ทั้งทั้งที่เห็นเด็กคุณใจ……มากๆด้วยความอารมณ์ร้อนของคุณ(แค่เข้าเติมลมบอกกันดีๆก็ได้) ครั้งแรกในชีวิตที่มีคนเอาปืนขึ้นมาคู่แบบนี้บอกเลยว่ากลัวมากๆสังคมนี้อยู่ยากจริงๆค่ะอากาศมันร้อนใจเย็นๆนะคะ…
ซึ่งในโพสต์ได้มีภาพประกอบเป็นภาพ รถยนต์กระบะนาวาร่าและมีชายกำลังก้มเติมลมโดยที่ด้านหลังมีอาวุธปืนพกอยู่ จากนั้นก็มีผู้เข้ามาคอมเม้นมากมายต่างๆ
ต่อมา วันที่ 15 เมษายน 6 1 เวลาประมาณ 12.30 น. ได้มี นายศิรเมศร์ โรจน์เอกจิต เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือกว่า ขณะจอดรถเติมลมรถยนต์กระบะ อยู่ในปั๊มน้ำมัน ปตท.จิฟฟี่ ตำบลธรรมศาลาอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งขณะนั้นรถยนต์ของตนได้เลื่อนไหลไปชนแท่งตั้งป้ายบริษัท เติมลมได้รับความเสียหาย ระหว่างรอประกันมาดูที่เกิดเหตุปรากฏว่า มีรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่าทะเบียน ผล 567 ชลบุรี จะเข้ามาเติมลมเช่นกัน แต่รถยนต์ของนายศิระเมศร์ผู้เสียหายยังจอดขวางอยู่เขาเติมลมไม่ได้ ทั้งสองจึงได้มีปากเสียงกันเจ้าของรถยนต์กระบะนิสสันนาวาร่าโมโห จึงได้หยิบอาวุธปืนออกมาจากในรถมาถือ เป็นการข่มขู่แล้วเหน็บไว้ที่เอวด้านหลัง นายศิระเมศร์ กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตจึงถอยรถยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ และมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี
หลังได้รับแจ้ง และรับรายงาน พันตำรวจเอกพงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก เห็นว่าเป็นการกระทำผิดที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงได้สั่งการให้พันตำรวจโทภาณุทัต เหลืองสัจจกุล รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม กับพวกรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่ใช้รถยนต์กระบะ Nissan Navara ทะเบียน ผล 567 ชลบุรี มาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาจากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวชื่อนาย พัทธ์ (นามสมมติ) อยู่หมู่ 1 ตำบลหนองปง อำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี จึงได้ปริ้นภาพถ่ายใบหน้ามาให้ผู้เสียหายดูซึ่งผู้ไร้ที่ยืนยันว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันที่ใช้อาวุธปืนขู่ตนในปั๊มน้ำมันดังกล่าวข้างต้น พนักงาน สอบสวนจึงได้ติดต่อแจ้งเหตุให้ผู้ก่แเหตุมารับทราบ ข้อกล่าวหา
ต่อมาวันนี้วันที่ 17 เมษายน 2561 หลังพนักงานสอบสวนได้เรียกตัว นายพัทธ์ (นามสมมติ) ผู้ต้องหา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำอาวุธปืน พกสั้นแบบออโตเมติกยี่ห้อ Glock 19 พร้อม Magazine 1 อันพร้อมเอกสารการครอบครองเป็นเจ้าของวุธปืน มอบตัวกับพนักงานสอบสวนรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก
พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดคือ “พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ พาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”
ต่อมาวันนี้วันที่ 18 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น.ผู้กำกับหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรสามควายเผือก และ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้นำตัว นายพัทธ์ (นามสมมติ)ไปพบ พลตำรวจตรี คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และพันตำรวจเอก ปรีดา อิ่มเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐมเพื่อร่วมซักถามปากคำอีกครั้ง ซึ่งนายพัทธ์(นามสมมติ)ให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำการดังกล่าวจริงแต่เป็นการเข้าใจผิดคิดว่าคู่กรณีจะมีอาวุธจึงได้นำอาวุธปืนที่ติดตัวมาจากในรถออกมา เพื่อป้องกันตัว โดยอ้างว่าตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี แต่มาซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวโรงเรียนสิรินธรเมืองนครปฐม วันเกิดเหตุกำลังจะขับรถไปซ้อมยิงปืนที่สนามยิงปืน แห่งหนึ่ง ใน กทม. ส่วนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสื่อทาง Social ได้ลงข้อมูลไปต่างๆนาๆทั้งจริงและไม่จริง ส่วนเรื่องการขอโทษตนได้ขอโทษผู้เสียหายไปแล้วต่อหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่ง วันนี้จะไม่ขอพูดอะไรมากกว่านี้เพียงแค่ขอให้สื่อนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาและขอให้ปกปิดชื่อนามสกุลและใบหน้าตนเองด้วยเพราะตนเองมีหน้าที่การงาน…
พิราบ5 ภาพ / ข่าว
