คณะ กคช. ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารงานชุมชนภาคกลางและภาคตะวันออก ที่สุพรรณบุรี

วันนี้(10 พ.ค.66) ที่ห้องประชุม สำนักงานเคหะจังหวัดสุพรรณบุรี  นางพัชรี อาระยะกุล  กรรมการบริหารพัฒนาชุมชนและฟื้นฟูเมืองการเคหะแห่งชาติ  พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการในความรับผิดชอบของฝ่ายบริหารงานชุมชนภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ยา 1) จำนวน 322 หน่วย

โดยนายสมเจตน์  ประพันธ์บัณฑิต  รองผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ  กล่าวชี้แจงว่า โครงการที่สำนักงานเคหะสุพรรณบุรีรับผิดชอบมี 3 โครงการ ได้แก่ เคหะชุมชนสุพรรณบุรี 361 หน่วย/แฟลตเช่าบ้านพักข้าราชการ(อ]เมือง) จ.อ่างทอง 79 หน่วย และเคหะชุมชนและบริการชุมชน จ.สุพรรณบุรี(อู่ยา) 322หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้างเนื่องจากประสบปัญหากาคแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในห้วงที่ผ่านมา  จึงได้มีการขยายสัญญา เพิ่มเติมและจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2566 และจะมีการส่งมอบบ้านภายในเดือนกันยายน 2566 ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 263 หน่วย แบ่งเป็นบ้านแฝด 124 หน่วย  ทาวน์เฮ้าส์  39 หน่วย  อาคารคงเหลือ จำนวน 159 หน่วย แต่ ทั้ง 159 หน่วย มีการจองเรียบร้อยแล้ว ติดตรงการขอกู้จากแหล่งสินเชื่อ ขณะนี้ทางสำนักงานเคหะจังหวัดสุพรรณบุรี เร่งประชาสัมพันธ์ ในโครงการอื่นๆเพิ่มมากขึ้นทุกช่องทาง เพื่อให้มียอดการขายเพิ่มมากขึ้น

       ด้านนางพัชรี อาระยะกุล  กรรมการบริหารพัฒนาชุมชนและฟื้นฟูเมืองการเคหะแห่งชาติ  กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้นอกจากเพื่อติดตามความคืบหน้าแล้ว โครงการที่สุพรรณบุรี แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนดซึ่งเป็นเรื่องที่ดี  แต่ขอให้ทางการเคหะจัดทีมประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบูรณาการกับทางจังหวัดโดยประสานผู้ว่าราชการจังหวัด/พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และหน่วยงานอื่นๆเพื่อให้สื่อสารเชิญชวนข้าราชการใหม่

โดยมีโปรโมชั่นพิเศษเพิ่มยอดขาย ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ด้วยอารยสถาปัต และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้ามาดูบ้านในโครงการต่างๆของการเคหะแห่งชาติ ทั่วประเทศ ราคาจองเพียง 5,000.บาท ทุกท่านสามารถ ผ่อนดาวส์ ผ่อนชำระ หรือเช่า ก็จะทำให้คุณมีบ้านได้ในอนาคต “สร้างบ้านสร้างสุขเพื่อคุณภาพชีวิตที่”

ขณะที่ ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ  กรรมการ กคช.กล่าวถึงการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้อยู่อาศัย อาทิ ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย/ การปลูกต้นไม้ และสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนและการออกกำลังกายเป็นต้น

 

จากนั้นในช่วงบ่าย คณะจะเดินทางไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการเคหะชุมชนอยุธยา 2 ระยะ 1(บ่อโพง)  มีจำนวน 688 หน่วย