ตรัง มอบเงินช่วยเหลือผลกระทบโควิด -19ไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท




จังหวัดตรัง  มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 4 เป็นเงินกว่า 1ล้าน3แสนบาท รวมมอบเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท ส่วนสถานการณ์โควิด -19 ยังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เนื่องจากประชาชนยังคงให้ความร่วมมือเป็นอย่างอี


ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ COVID-19 จังหวัดตรัง ศาลากลางจังหวัดตรัง นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดตรัง โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร รอบที่ 4 จำนวน 639 ราย เป็นเงิน 1,344,500 บาท (หนึ่งล้านสามแสนสี่หมื่นสี่พันห้าร้อยบาทถ้วน)  การช่วยเหลือนั้นเป็นการดำเนินการภายใต้โครงการ “เราไม่ทิ้งกัน พม.ห่วงใย สู้ภัยโควิด-19” ทั้งนี้มีข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคมในจังหวัดตรัง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2563 จำนวน 1,736 ราย เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือในรอบที่ 5 ต่อไป การมอบเงินช่วยเหลือนั้นขณะนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือไปแล้วกว่า 9 ล้านบาท

          

หลังจากนั้น นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์โควิด-19 ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19  ซึ่งในการประชุมได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนเนื่องจากทาง ศบค.ได้มอบหมายให้สำรวจตามแบบเพื่อที่จะใช้แพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ซึ่งมี 3 ส่วน ส่วนที่ 1 สำหรับกิจการ/กิจกรรม ให้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ www.ไทยชนะ ส่วนที่ 2 สำหรับประชาชน ให้ใช้งานผ่าน QRCode ส่วนที่ 3 สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้กำกับดูแล/ตรวจ ให้ใช้งานผ่านแอพพลิเคชั่น “ผู้พิ ทักษ์ไทยชนะ” ขอให้ทางโควิดทั้งจังหวัด โดยมีสำนักงานจังหวัด สำนักงานสาธารณสุข และปกครองเป็นฝ่ายเลขา ทำหน้าที่ในการประสาน ระดับอำเภอ ตำบล อบจ. เทศบาลนครตรัง เทศบาลเมืองกันตัง รวมทั้งชุดตรวจ ในเบื้องต้นขอให้ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมโรค ซึ่งมีประกาศราชกิจจาเมื่อวันที่ 13 ที่ผ่านมา จะกระจายลงไปตามจำนวนความเหมาะสมแต่ละพื้นที่ ให้รวบรวมข้อมูลภายในวันที่ 26 พ.ค.เพื่อรวบรวมส่งหน่วยงานที่รับผิดชอบพัฒนาแอพพลิเคชั่น “ผู้พิทักษ์ไทยชนะ” โดยในแบบข้อมูลจะมีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ชื่อ นามสกุล หน่วยงานที่สังกัด จังหวัด อำเภอ ตำบล เบอร์มือถือ 10 หลัก (ห้ามซ้ำในแต่ละเบอร์) เพื่อเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น “ผู้พิทักษ์ไทยชนะ” เพื่อนำแอพพลิเคชั่นดังกล่าวไปใช้เป็นเครื่องมือในการกำกับดูแลต่อไป  ขอให้ทุกชุดที่ทำหน้าที่ทั้งกำกับและชุดสายตรวจร่วม กรณีรวมทั้งผู้ประกอบการที่จะใช้ QRCode พยายามแนะนำแอพพลิเคชั่นด้วย ซึ่งในส่วนนี้จังหวัดมีมาตรการผ่อนคลาย โดยเฉพาะในเฟสที่ผ่านมามีมาก และหลายส่วนที่จะต้องใช้ QRCode ขอให้ใช้โดยเคร่งครัดด้วย เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะประมวลข้อมูล ขณะนี้ข้อมูลจะไปที่ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งทางส่วนกลางจะแยกแต่ละจังหวัด จึงขอให้แต่ละระดับปฏิบัติกันโดยเคร่งครัด